TMB กำไรพุ่ง 125% แตะ 2.7พันล้าน สำรองวูบเหลือ 5.4พันล้าน

TMB กำไรพุ่ง 125% แตะ 2.7พันล้าน สำรองวูบเหลือ 5.4พันล้าน

ทีเอ็มบี ประกาศกำไรสุทธิไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 2.7 พันล้าน เพิ่มขึ้น 1.25 % จากไตรมาสก่อนหน้า จากสำรองลดลงเหลือ 5.4 พันล้านบาท แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรวูบ 33.2%

        ธนาคารทหารไทย(TMB) ประกาศกำไรสุทธิ หลังตั้งสำรองในไตรมาส 1ปี 2564 อยู่ที่ 2,782 ล้านบาท ซึ่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 125.3% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 33.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งคิดเป็นอัตรา ผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น หรือ ROE ที่ร้อยละ 5.5

      อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี 2563 เศรษฐกิจไทยเริ่มมีกำรฟื้นตัวที่ดีขึ้น ก่อนที่การแพร่ระบาดรอบใหม่ จะสร้างความกังวลบนคุณภาพของสินทรัพย์อีกครั้ง ธนาคารจึงได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและรักษาประสทธิภาพในการดำเนินงานผ่านกลยุทธ์ในการปรับโครงส้างงบดุลให้มีความเหมาะสม พร้อมทั้งรับ ผลประโยชน์หลังควบรวมกิจการ
       ทั้งนี้ ทีเอ็มบียังคงเติบโตสินเชื่อและเงินฝากอย่างระมัดระวังเพื่อมั่นใจในคุณภาพของพอร์ต แม้ในสภาวะ
ดอกเบี้ย ปรับตัวลดลง ผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคาร ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่ำงต่อเนื่อง ส่วนของรายได้ดอกเบี้ย และส่วนต่างรายได้อัตราดอกเบี้ย ชะลอตัวจากแรงกดดันของอัตราผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อตามภาวะอัตราดอกเบี้ย ลดลง และปรับประมาณการณ์การทำบัญชีบนพอร์ตสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

      อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิปรับตัวดีขึ้น จากกองทุนรวมและการรับรู้ประโยชน์ด้านต้นทุนส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง จากการชะลอตัวของรายได้ ทำให้PPOP ปรับตัวลงจากไตรมาสก่อน

      ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารยังคงคงความรอบคอง และตั้งสำรองเป็น 5,480 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2564 เทียบกับ 8,237 ล้านบาทในไตรมาส 4/2563

      ซึ่งการตั้งสำรองสะท้อนแบบจำลอง ECLที่เข้มงวดของธนาคารซึ่งได้รวมผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นบนพอร์ตสินเชื่อจากมาตรการความช่วยเหลือเข้ามาด้วย ในไตรมาส 1/2564 สินเชื่อขั้นที่ 3อยู่ที่จำนวน 43,400 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ร้อยละ 2.75
      โดยการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินและส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกลไกลอื่นๆในการแก้ปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพชะลอตัวในไตรมาสนี้