เงียบจัด! เปิดขายอาหารนั่งทานในร้านวันแรก ชี้ ‘ครอบครัว’ นั่งด้วยกันได้ไม่เกิน 4 คน/โต๊ะ

หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการพื้นที่ควบคุมในวันที่ 17 พ.ค.2564 โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารได้ไม่เกิน 25% และเปิดให้นั่งได้ถึง 21.00 น.เท่านั้น ซื้อกลับบ้านได้ถึง 23.00 น. โดยต้องสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เมื่อออกนอกเคหะสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามปกติ ไม่เกิน 21.00 น.นั้น

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการนั่งทานอาหารในร้าน ซึ่งเริ่มมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าบรรยากาศภายในร้านส่วนใหญ่ยังเงียบ ผู้ซื้อยังไม่กล้านั่งทานอาหารในร้าน คนขายก็ยังไม่กล้ารับลูกค้าจำนวนมาก ในสถานการณ์ที่มีคลัสเตอร์ใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมากจากการระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งทำให้ทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายเกิดความกังวล

นอกจากนี้ยังพบว่ามีความเข้าใจผิดเรื่องการประกาศให้นั่งทานอาหารที่ร้านได้โต๊ะละ 1 คน เพราะตามประกาศของ ศบค.ไม่มีระบุไว้ โดยตามความหมายของการให้ลดพื้นที่ที่นั่งรับประทานอาหารลง 25% ของพื้นที่นั่งปกติในร้านอาหาร โรงอาหาร และศูนย์อาหาร เช่น จากเดิมมีที่นั่งรับประทานอาหาร 100 ที่นั่ง สามารถนั่งได้ 25 ที่นั่ง ทางกรมอนามัยมีคำแนะนำ ดังนี้

-จัดให้มีระยะห่างระหว่างโต๊ะ 1-2 เมตร กรณีระยะน้อยกว่า 1 เมตร ต้องมีฉากกั้น

-ถ้าเป็นห้องแอร์ ระยะห่างระหว่างโต๊ะ 2 เมตร (เปิดระบายอากาศทุก 1-2 ชั่วโมง)

-จัดให้มีระยะห่างแต่ละบุคคลห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร (ถ้าระยะไม่ถึง 1 เมตร ต้องมีฉากกั้น) และจัดที่นั่งโต๊ะละไม่เกิน 4 คน สำหรับครอบครัวเดียวกันหรือมาด้วยกันได้

-กำหนดเวลานั่งรับประทานอาหารไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง

-จัดอุปกรณ์เฉพาะบุคคล

-ควบคุมจำนวนผู้รับบริการที่นั่งรับประทาน ไม่ให้แออัด 2-4 ตารางเมตรต่อคน

“ดังนั้นหากในร้านมีโต๊ะขนาดเล็ก ในทางปฏิบัติคงนั่งได้แค่คนเดียว ส่วนร้านไหนมีโต๊ะใหญ่ก็ทำฉากกั้น สามารถนั่ง 2 คนด้วยกันได้”

ส่วนร้านที่จัดบริการบุฟเฟต์ เช่น สุกี้ ชาบู หมูกระทะ ให้ปฏิบัติตามรายละเอียดข้างต้น โดยงดให้บริการในรูปแบบบุฟเฟต์ที่ผู้ใช้บริการต้องตักเอง