เตรียมรับมือ”อีไอซี”คาดจีดีพีไทยปีนี้โตเต็มที่แค่ 2%
อีไอซี ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า แม้จีดีพีไตรมาสแรกปีนี้จะหดตัวที่ 2.6% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนตามการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวดี แต่การบริโภคภาคเอกชนกลับมาหดตัวจากการระบาดระลอก 2 ของโควิด ทำให้คาดว่าจีดีพีทั้งปีจะขยายตัวอย่างช้าๆที่ 2.0%
เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2021 หดตัวชะลอลงที่ -2.6%YOY หลังจากหดตัว -4.2%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า โดยเศรษฐกิจได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลก รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวดีโดยเฉพาะการก่อสร้างที่ได้รับอานิสงส์จากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อนที่มีการอนุมัติงบประมาณล่าช้า ขณะที่ภาคท่องเที่ยวยังซบเซาต่อเนื่อง
ส่วนการฟื้นตัวการบริโภคภาคเอกชนเกิดการสะดุด (หดตัวที่ -0.4%QOQ_sa) จากการระบาดระลอกที่สองในช่วงต้นปี ขณะที่เศรษฐกิจด้านการผลิต (Production approah) พบว่ามีการฟื้นตัวแตกต่างกันในหลายสาขา (uneven) โดยภาคเกษตรปรับดีขึ้นตามปริมาณผลผลิต ส่วนภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวตามการส่งออก ขณะที่การก่อสร้างขยายตัวดีจากการลงทุนภาครัฐ อย่างไรก็ดี ภาคการผลิตที่เกี่ยวกับการบริการและการท่องเที่ยวยังซบเซาต่อเนื่อง เช่น ภาคโรงแรมและภัตตาคาร และการเดินทาง ที่หดตัวในระดับสูง
สำหรับในช่วงไตรมาส 2 EIC คาดเศรษฐกิจจะทรุดตัวชัดเจน จากการระบาดระลอกที่ 3 ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนเป็นต้นมา โดยแม้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มพลิกกลับมาขยายตัว (แบบ %YOY) ได้ในช่วงไตรมาส 2/2021 แต่ก็เกิดจากปัจจัยฐานต่ำในช่วงปีก่อนที่มีการปิดเมืองทั่วโลกเป็นสำคัญ
โดยหากเทียบกับการฟื้นตัวในช่วงก่อนหน้า คาดว่าเศรษฐกิจจะทรุดตัวชัดเจน โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในส่วนที่เป็น face-to-face services เช่น โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมสันทนาการอื่น ๆ นอกจากนี้ ผลกระทบการระบาดระลอก 3 ที่เกิดขึ้นยังรวมไปถึงการสร้างแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกกว่าเดิม ทั้งในส่วนของการเปิดปิดกิจการ และภาวะตลาดแรงงานที่เป็นปัญหามาก่อนหน้า
ในส่วนของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากภาคส่งออกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง เม็ดเงินจากมาตรการภาครัฐ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน ขณะที่ภาคท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่อง ประกอบกับแผลเป็นเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นตัวในระยะข้างหน้า
ทั้งนี้ EIC คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2021 จะขยายตัวอย่างช้า ๆ ที่ 2.0% แต่ยังมีความเสี่ยงด้านต่ำที่ต้องจับตา ได้แก่ 1) ระยะเวลาในการควบคุมการระบาดระลอกที่ 3 ที่อาจนานกว่าที่เคยคาดไว้ที่ 3 เดือน เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ปรับดีขึ้น รวมถึงการระบาดรอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ ตราบใดที่ยังมีการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ และ 2) ความล่าช้าในการฉีดวัคซีน และประสิทธิภาพของวัคซีนที่อาจมีไม่สูงพอโดยเฉพาะกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดย EIC จะติดตามและวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ก่อนที่จะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้