'บางจากฯ' จับมือ 'ชาร์จ' ขยายปั๊มอีวีย่านชานเมือง
"บางจาก" ผนึก "ชาร์จ แมเนจเม้นท์" ลุยติดตั้งสถานี Quick SHARGE นำร่องสาขาสุขุมวิท 62 เปิดให้บริการไตรมาส 3 ปีนี้ ก่อนขยายครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ มีแผนที่จะลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า(Charging Station)ในย่านชานเมือง โดยจะจับมือกับพันธมิตร เพื่อให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ทุกยี่ห้อ และต้องเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ขณะเดียวกันปัจจุบัน บางจากฯ ยังมีความร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในต่างจังหวัด ซึ่งดำเนินการติดตั้งไปได้แล้วกว่า 50 แห่ง คาดว่าสิ้นปีนี้ จะครบ 200 แห่ง และใน 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็น 400-500 แห่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถEV ที่ต้องการเดินรถทางไกล หรือออกต่างจังหวัด ในทุกๆระยะทาง 50-100 กิโลเมตร และมีจุดชาร์จรถEV อย่างแน่นอน
ด้านนายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) เปิดเผยว่า การร่วมมือกับบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัท ขับเคลื่อนธุรกิจให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร เพื่อให้บริการลูกค้าสำหรับกลุ่มผู้ขับรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ที่ต้องการชาร์จรถระหว่างการเดินทาง
โดยนำร่องติดตั้ง สถานีอัดปจะจุไฟฟ้า ประเภทชาร์จเร็ว Quick SHARGE ภายในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ที่สุขุมวิท 62 เป็นแห่งแรก ซึ่งจะเปิดให้บริการราวไตรมาสที่ 3 โดยความพิเศษของสถานีฯนี้ คือการให้บริการด้วยเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้มาตรฐานจากยุโรป รองรับรถ EV ที่หลากหลาย ให้บริการชาร์จแบบ Quick SHARGE กำลังไฟฟ้าสูงถึง 120 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จรถ EV ได้เร็วขึ้นกว่าแท่นชาร์จทั่วไป
อีกทั้ง การที่ บางจากฯ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นนั้น ยังช่วยสนับสนุนการบริการของ SHARGE ให้ครอบคลุมลูกค้าในกลุ่มที่ต้องการชาร์จระหว่างการเดินทาง (ON THE GO) มากขึ้น โดยในอนาคต ยังมีแผนขยายความร่วมมือติดตั้งปั๊มชาร์จไฟฟ้าในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ย่านธุรกิจ แหล่งไลฟ์สไตล์ ครอบคลุมพื้นที่อื่นๆในกรุงเทพฯต่อไป
"บางจากฯ มองเห็นศักยภาพของบริษัท ที่มีจุดแข็งจากการเป็นผู้ให้บริการที่ครอบคลุมลูกค้า 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มชาร์จตามที่อยู่อาศัย กลุ่มชาร์จตามแหล่งไลฟ์สไตล์ และกลุ่มชาร์จระหว่างเดินทาง เช่น การชาร์จตามสถานีต่างๆ"
นอกจากนี้ บริษัท ยังมีนวัตกรรมรองรับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานด้วยแอปพลิเคชั่น ที่เชื่อมต่อข้อมูลการชาร์จมาไว้บนสมาร์ตโฟนผู้ใช้งานสามารถจองแท่นชาร์จ จ่ายค่าไฟฟ้า และติดตามข้อมูลการชาร์จได้แบบเรียลไทม์
SHARGE ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี (ปี 2563-2568) บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายได้ 3,000 ล้านบาท จากการขายเครื่องชาร์จ 20,000 หัวจ่าย ซึ่งจะมาจากการขายอุปกรณ์ให้กับโครงการที่พักอาศัย 30% และ 70% มาจากยอดขายไฟฟ้า จากหัวชาร์จที่กระจายอยู่ 250 แห่ง ให้บริการหัวชาร์จในแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ ตลอดเส้นทางกรุงเทพ หัวหิน พัทยา และเขาใหญ่