'คปภ.' จ่อฟันบริษัทประกัน ฝ่าคำสั่งยกเลิก 'คุ้มครองโควิด'
คปภ. แจงประชาชนไม่ต้องกังวล จดหมาย "สินมั่นคง" ยังบอกเลิกความคุ้ม "ประกันโควิด" ไม่มีผล ย้ำบริษัทประกันต้องยึดปฏิบัติตามคำสั่ง และไม่จำเป็นต้องหารือ ย้ำทุกบริษัทห้ามเทซ้ำรอยเดิม ฝ่าฝืนลงโทษปรับ 3แสน และรับโทษอีกหลายกรณี
จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ได้ทำหนังสือแจ้งบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด แบบ เจอ จ่าย จบ หรือโควิด 2 อิน 1 กับผู้ซื้อประกันโดยอ้างเหตุจากภาวะระบาดของโรคโควิดอย่างหนัก จนต่อมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ต้องออกคำสั่งนายทะเบียนยับยั้ง ห้ามให้บริษัทประกันวินาศภัยทุกแห่งบอกเลิกประกันภัยโควิดเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทาง บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ยังไม่มีการชี้แจงลูกค้าเพิ่มเติม ประกอบกับในวันนี้ยังคงมีลูกค้าหลายรายทยอยได้รับจดหมายแจ้งยกเลิก ซึ่งยังทำให้ประชาชนยังเกิดความไม่สบายนั้น
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ขอให้ประชาชนผู้ทำประกันภัยโควิดทุกคนไม่ต้องกังวล เพราะกรมธรรม์โควิดทุกฉบับที่ซื้อไปจากสินมั่นคง หรือจากบริษัทประกันแห่งอื่น จะไม่สามารถบอกเลิกได้ และยังได้รับคุ้มครองตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้แน่นอน เพราะคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่องให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิดฯ ที่ คปภ.เพิ่งออกไปเมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง เป็นอำนาจสูงสุดที่ให้ทุกบริษัทประกันภัยต้องปฏิบัติตาม
ส่วนกรณีที่ประชาชนเพิ่งได้รับจดหมายบอกเลิกประกันภัยจากสินมั่นคง ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะจดหมายบอกเลิกจะไม่มีผลทางปฏิบัติ รวมถึงกรณีที่ทางสินมั่นคงบอกว่าจะขอเข้ามาหารือกับ คปภ.ก่อนนั้น ก็ไม่จำเป็น และไม่มีผลเช่นกัน เพราะคำสั่งนายทะเบียนที่ออกไปถือเป็นคำสั่งทางปกครองไปแล้ว ทุกบริษัทไม่สามารถบอกเลิกกรมธรรม์ประกันโควิดตามอำเภอใจได้
ทั้งนี้ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฯ มีโทษปรับสูงสุด 300,000 บาท และหากปฏิเสธจ่ายสินไหมทดแทน ก็ยังมีความผิดฐานประวิงจ่ายค่าสินไหมฯ เพิ่มอีก ซึ่งต้องเสียค่าปรับ และค่าปรับรายวันเพิ่มเติมด้วย หรือหากใครไม่ได้รับความเป็นธรรม คปภ.ได้เปิดช่องทางร้องเรียนได้ที่เว็บไซต์ คปภ. http://oiceservice.oic.or.th/ หรือติดต่อโดยตรงที่ สำนักงาน คปภ รวมถึง สายด่วนประกันภัย 1186
นายสุทธิพล ยืนยันว่าขณะนี้บริษัทประกันภัยยังมีความมั่นคงและมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ซึ่งในส่วนของสินมั่นคงประกันภัย จากการตรวจสอบก็มีเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมายกว่า 300% สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 140% และยังมีผลประกอบการที่มีกำไรด้วย ดังนั้นการตัดสินใจบอกเลิกประกันภัยโควิดจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับฐานะการเงินของบริษัท