หุ้นแบงก์เด้งรับฟรีโฟลทใหม่ ตลท.จ่อปรับเกณฑ์ ธ.ค.64
“บล.เอเซีย พลัส” เผย ตลท.เฮียริ่งปรับเกณฑ์คำนวณดัชนี SET50-SET100 ชี้กลุ่มธนาคารได้ประโยชน์มากที่สุด เหตุฟรีโฟลทสูง ดันราคาหุ้นขึ้นยกแผง ด้าน DELTA ร่วง 10% หวั่นหลุดคำนวณดัชนีรอบเดือน ธ.ค.64 จากฟรีโฟลทต่ำ-ติดแคชบาลานซ์ถึง 7 เดือน “บล.โนมูระฯ” คาดเงินไหลออก 2.9 พันล้าน
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกเอกสารรับฟังความเห็น(เฮียริ่ง)ในการปรับปรุงดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรวมไปถึงเกณฑ์การคำนวณหุ้นเข้าและออกดัชนี SET50 และ SET100 โดยหลักมีแผนนำสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยมาใช้ในการคำนวณดัชนี (Free Float Adjusted Market Capitalization) รวมถึงการพิจารณาไม่นำปริมาณซื้อขายหุ้นในช่วงที่เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายตั้งแต่ระดับแคชบาลานซ์ เข้ามาคำนวณในดัชนี
สำหรับหุ้นที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดหากตลท.ประกาศใช้เกณฑ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ คือ กลุ่มธนาคาร เพราะเป็นกลุ่มที่มีฟรีโฟลทค่อนข้างสูง เฉลี่ยอยู่ที่ 75% เทียบกับหุ้นที่อยู่ดัชนี SET100 เฉลี่ยอยู่ที่ 46.3% เท่านั้น ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารวานนี้ (21 ก.ย.) ปรับขึ้นยกแผง นำโดยธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บวก5.91% ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) 2.11% และธนาคารกรุงเทพ (BBL) 2.24% ซึ่งมีฟรีโฟลทที่ 76.61% 79.60% และ 98.53% ตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด และสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารที่ 75%
ส่วนหุ้นที่จะเสียประโยชน์มากที่สุดคือ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) เพราะมีสัดส่วนฟรีโฟลทค่อนข้างต่ำ 22.35% นอกจากนี้ ยังเสี่ยงหลุดจากการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 หากตลท.นำหลักเกณฑ์ใหม่มาใช้ในรอบคัดเลือกถัดไปซึ่งจะประกาศรายชื่อ ในเดือนธ.ค.2564) เพราะ DELTA ติดแคชบาลานซ์ต่อเนื่อง 7 เดือน ซึ่งปริมาณหุ้นไม่เพียงพอกับหลักเกณฑ์ขั้นต่ำเชิงคุณภาพที่กำหนดให้บริษัทต้องซื้อขายปกติ 6 เดือนขึ้นไป ส่งผลให้วานนี้ราคาหุ้น DELTA ร่วง 10.43%
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในกลุ่มที่ได้ประโยชน์ เลือก KBANK เป็นหุ้นเด่น เพราะนอกจากจะได้ปัจจัยหนุนจากการปรับเกณฑ์ฟรีโฟลทใหม่แล้ว ธนาคารยังได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองมากที่สุด เพราะมีพอร์ตลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มากที่สุด ขณะที่ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันยังบวกขึ้นเพียง 6% เท่านั้น ต่ำกว่าดัชนี SET ที่บวกราว 12% แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2564 จะถูกกดดันจากโควิด-19 แต่คาดว่าความเสี่ยงขาลงเริ่มจำกัด และแนวโน้มกำไรมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนหุ้นที่เสียประโยชน์ DELTA แนะนำนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง เพราะราคาหุ้นมีความเสี่ยงปรับตัวลงต่อเนื่อง เทียบจากกระแสข่าวการนำฟรีโฟลทมาใช้คำนวณดัชนีในรอบก่อนหน้า ส่งผลให้ราคาหุ้น DELTA ปรับลงแตะระดับ 300 บาทต่อหุ้น ขณะที่รอบนี้มีความเสี่ยงถูกถอดออกจากดัชนีเข้ามาซ้ำเติม หากเฮียริ่งได้รับการเห็นด้วย เร็วสุดก็จะนำมาใช้ในการคำนวณดัชนีรอบถัดไปที่จะประกาศรายชื่อเดือนธ.ค.2564
นายกรภัทร วรเชษฐ์ นักวิเคราะห์ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า คาดว่ากลุ่มหุ้นที่ได้และเสียประโยชน์จากการปรับหลักเกณฑ์การคำนวณดัชนีจะยังผันผวนต่อเนื่องจนกว่าจะมีบทสรุปอย่างเป็นทางการจากตลท. เบื้องต้นคาดว่าหุ้นที่จะได้รับการปรับน้ำหนักเพิ่มจะมีเงินไหลเข้าราว 1,100-100 ล้านบาทต่อบริษัท ส่วนหุ้นที่เสี่ยงถูกลดน้ำหนักลงจะมีเงินไหลออกราว 1,200-109 ล้านบาทต่อบริษัท ยกเว้น DELTA คาดว่าจะมีเงินไหลออก 2.9 พันล้านบาท เพราะมีความเสี่ยงถูกถอดออกจาก SET50 และ SET100 จากที่บริษัทติดแคชบาลานซ์ต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา