วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (22 ก.ย. 64)
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสมาชิกโอเปคพลัสบางราย แองโกลา ไนจีเรีย และคาซัคซัคสถาน ผลิตน้ำมันดิบได้ต่ำกว่าเป้า
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังแองโกลา ไนจีเรีย และคาซัคซัคสถาน ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตร ประสบปัญหาในการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. ให้ได้ตามโควต้าของแต่ละประเทศ เนื่องจากติดปัญหาด้านการซ่อมบำรุงหลุมขุดเจาะที่ล่าช้า รวมถึงการลงทุนด้านการสำรวจและผลิตที่ต่ำลงในช่วงที่ผ่านมา
- สำนักข่าว TASS รายงานว่า รัสเซียเชื่อว่าความต้องการใช้น้ำมันอาจไม่ฟื้นตัวกลับมาถึงระดับปี 2019 ท่ามกลางสมดุลด้านพลังงานที่เปลี่ยนไปจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านพลังงานโลก ตามเอกสารที่แนบมากับร่างงบประมาณของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียออกมากล่าวว่าตลาดน้ำมันทั่วโลกจะฟื้นตัวเต็มที่ในช่วงปีหน้า
+ หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ย. 64 ปรับตัวลดลง 6.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 411.3 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงราว 2.4 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินของประเทศจีนที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในเวียดนามยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเดินทาง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มที่ฟื้นตัว ขณะที่อุปทานในภูมิภาคยังคงตึงตัว จากปริมาณการส่งออกของจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง