ฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช. 4 ต.ค. สอบ กยท. ’ส่อฮั้ว’ ขายยางแสนตัน

ฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช. 4 ต.ค. สอบ กยท. ’ส่อฮั้ว’ ขายยางแสนตัน

พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นหลักฐานการทุจริตโครงการต่างๆของรัฐบาลต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. เพื่อเอาผิดคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ

ในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ บรรดาพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นหลักฐานการทุจริตโครงการต่างๆของรัฐบาลต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. เพื่อเอาผิดคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ รวมทั้งตัวนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ การผูกขาดเอื้อประโยชน์เกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า การทุจริตการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค การส่อไปในทางทุจริตเรื่องการจัดซื้อชุดตรวจ ATK และการบริหารจัดการวัคซีนที่ไร้ประสิทธิภาพ 

ส่วนกระทรวงเศรษฐกิจ มีชื่อของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน เรื่องโครงการขายยางพาราในสต็อกของการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท.

ที่ปรึกษาพรรคประชาชาติ ธงชาติ รัตนวิชา ระบุ การขายยางพาราในราคาต่ำกว่าปกติ ของ กยท. ส่อไปในทางทุจริต เอื้อประโยชน์ให้ผู้รับซื้อยางพาราเพียงรายเดียว ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียเงินประมาณ 6 พันล้านบาทในการจ่ายชดเชย ทั้งยังผิดกฎหมายการยางว่าด้วยการรักษาเสถียรภาพราคายางพารา เพราะขายในราคาต่ำ  โดยนำยางคุณภาพดีมาคละกับยางที่มีคุณภาพต่ำ เพื่อขายคละเกรดทำประเทศเสียประโยชน์ และเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน

จากการตรวจสอบพบว่า กยท.กำหนดให้ผู้สนใจลงทะเบียนร่วมเสนอราคากับกยท.ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 ถึง วันอังคารที่ 20 เมษายน 2564 ก่อนเวลา 16.30 น. และมีเงื่อนไขว่าต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันในการเสนอราคาเป็นแคชเชียร์เช็ค มูลค่า 200 ล้านบาท และหลักฐานแสดงความสามารถในการชำระเงิน หรือหลักฐานที่ธนาคารรับรองไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
 
กยท.ออกประกาศดังกล่าว เมื่อวันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564  ขณะที่วันรุ่งขึ้นคือวันเสาร์ที่ 10-วันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน เป็นวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนวันที่ 17-18 เมษายน 2564 เป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คงเหลือวันทำการเพียง 3 วันเท่านั้น คือ วันที่ 16 และวันที่ 19-20 เมษายน 2564 ทั้งที่พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ระบุว่าการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องมีระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ 

ขณะที่ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 กำหนดให้การเผยแพร่ประกาศการซื้อหรือจ้าง ซึ่งมีวงเงินเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป ต้องไม่น้อยกว่า 20 วันทำการ แต่ประกาศดังกล่าวของ กยท. เป็นการขายยางจำนวน 104,763.35 ตัน มูลค่าที่รับซื้อหลายพันล้านบาท กลับมีระยะเวลาลงทะเบียนเพียง 3 วันทำการ และในการลงทะเบียนยังต้องใช้หลักฐานรับรองจากธนาคารแสดงความสามารถชำระเงินไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท และหลักทรัพย์ค้ำประกัน 200 ล้านบาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ประกอบการจะเข้าร่วมการลงทะเบียนได้หากไม่รู้ข้อมูลล่วงหน้ามาก่อน และสุดท้ายมีผู้เข้าร่วมเพียงรายเดียว และเป็นผู้ชนะ คือ บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ ซึ่ง กยท.ได้ลงนามสัญญากับบริษัทเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564