IRPC - ส่วนต่างปิโตรฯอ่อนแอ (19 ตุลาคม 2564)
คาดกำไรสุทธิใน 3Q ที่ 2.0พันลบ. (0.10บาท EPS), -56% qoq แต่ +30% yoy การลดลง qoq ผลจากอัตรากลั่นและส่วนต่างปิโตรฯอ่อนแอลง
โมเมนตัมกำไรของ IRPC กำลังฟื้นตัว อัตรากลั่นจะเพิ่มขึ้น 4ppt qoq เป็น 92% ใน 4Q แต่ยังต่ำกว่าอัตรากลั่นที่ดีที่สุดที่ 96-97% คงคำแนะนำ ถือ ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 4.5บาท (จาก 4.0บาท) เพื่อสะท้อนค่าการกลั่นสูงขึ้น ชอบ TOP มากกว่าสำหรับกลุ่มโรงกลั่น
คาดกำไรสุทธิ 3Q ที่ 2.0พันลบ. (0.10บาท EPS), -56% qoq แต่ +30% yoy
อัตราการกลั่นอาจลดลงเป็น 88% เทียบกับ 90% ใน 2Q เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลง ค่าการกลั่นตลาดจะทรงตัว qoq ที่ US$2.8/bbl แม้ส่วนต่างเบนซินจะดีขึ้น แต่ถูกหักล้างด้วยส่วนเพิ่มน้ำมันดิบที่สูงขึ้น (+US$0.5/bbl qoq) ธุรกิจปิโตรฯจะอ่อนแอลง qoq จากส่วนต่าง HDPE, PP, และ ABS ลดลง US$170, US$147, และ US$266 qoq เป็น US$564/t, US$561/t, และ US$1,663/t ตามลำดับ ปิโตรฯจะสร้างเพิ่มส่วนต่างรวม (GIM) ขึ้น US$5.4 เทียบกับ US$7.4 ใน 2Q ส่วนต่างน้ำมันหล่อลื่นจะอ่อนแอลง qoq เป็น US$3.4 เทียบกับ US$4.4 ใน 2Q เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลง เราคาด GIM ตลาดที่ US$12.5 เทียบกับ US$15.7 ใน 2Q คาด IRPC มีกำไรสต็อก US$4/bbl (หลังขาดทุนป้องกันความเสี่ยง) และทำให้ GIM ทางบัญชีเป็น US$16.5/bbl เทียบกับระดับคุ้มทุนที่ US$11.5/bbl คาด IRPC จะมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ 500ลบ. จากค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบ USD เราคาดกำไรสุทธิที่ 2.0พันลบ. (0.10บาท EPS), -56% QOQ แต่ +30% yoy
กำไร 4Q หนุนจากค่าการกลั่นที่สูงขึ้นและกำไรสต็อก
โมเมนตัมกำไร IRPC จะเป็นแนวโน้มขาขึ้น อัตราการกลั่นจะเพิ่มขึ้น 4ppt qoq เป็น 92% ใน 4Q แต่ยังต่ำกว่าระดับที่ดีที่สุดที่ 96-97% ซึ่งเป็นช่วงที่ส่วนต่างดีเซลอยู่ที่ US$14-15/bbl เทียบกับ US$13/bbl ในตอนนี้ ส่วนต่างปิโตรฯจะทรงตัว qoq ใน 4Q และจะอ่อนแอลงในปีหน้า IRPC จะมีกำไรสต๊อกหากราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ US$80
แนะนำ ถือ ปรับเป้าหมายสู่ 4.5บาท (จาก4.0บาท) เพื่อสะท้อนค่าการกลั่นที่สูงขึ้น
ปรับสมมติฐานค่าการกลั่นปี FY22-23F เป็น US$4.5/bbl จาก US$3.5/bbl ทำให้คาดการณ์กำไรของเราเพิ่มขึ้น 14% ทั้งสองปี คงคำแนะนำ ถือ ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 4.5บาท 1.0x FY22F PBV และ 11.9x PE ชอบ TOP มากกว่าสำหรับโรงกลั่น