KKP ผลประกอบการ 3Q64 : ไส้ในมีทั้งดีและแย่

เนื่องจากกันสำรองน้อยกว่าที่เราคาดไว้ ทั้งนี้ กำไรสุทธิในงวด 9M64อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท (+7%) คิดเป็น 83% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

 

สินเชื่อยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง

สินเชื่อรวมขยายตัว 2% QoQ และ 13% YoY เพราะสินเชื่อ H/P (+4% QoQ และ +18% YoY)และสินเชื่อจดจำนอง (+9% QoQ และ +33% YoY) ในขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัย และ SME ลดลง ส่วน yield สินเชื่อยังทรงตัวในขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง ส่งผลให้ NIM เพิ่มขึ้นเกือบ 10bps QoQ และ YoY

 

มีกำไรจากการลงทุนก้อนใหญ่

รายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 3Q64 ถึงแม้ว่า KKP จะบันทึกผลขาดทุนจาก FVTPL ก้อนใหญ่ถึง 616 ล้านบาทใน 3Q64 แต่กำไรจากการค้าหลักทรัพย์ และการลงทุนยังมีมูลค่ามากกว่า ซึ่งสามารถชดเชยผลขาดทุนจาก FVTPL ใน 3Q64 ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจการบริหารจัดการสินทรัพย์ยังเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และช่วยหนุนให้รายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นใน 3Q64 ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คชจ.สำรองฯ (credit cost) ลดลง, มีผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมาเพิ่มขึ้น

ผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมายังคงอยู่ในระดับสูง โดยเพิ่มขึ้นเป็น 613 ล้านบาทใน 3Q64 (จาก 523ล้านบาทใน 2Q64 และ 120 ล้านบาทใน 3Q64) และ 1.6 พันล้านบาทในงวด 9M64 ในขณะที่ credit cost ลดลงเหลือ 136bps ใน 3Q64 (จาก 190bps ใน 2Q64 และ 157bps ใน 3Q63) เนื่องจากมีผลขาดทุนจากรถที่ยึดมาเพิ่มขึ้น

 

Valuation and action

KKP บริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนได้ดี แต่ถูกฉุดโดยธุรกิจสินเชื่อ โดยมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จากการขายรถที่ยึดมา เราคาดว่า credit cost (รวมผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมา) จะอยู่ที่ประมาณ 2.6% ในงวด 9M64 (เพิ่มขึ้นจาก 1.6% ในงวด 9M63) และ ผลขาดทุนรายการนี้น่าจะยังเปราะบางอยู่ต่อไปอีกใน 4Q64 ดังนั้น ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิในงวด 9M64 จะคิดเป็น 83% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา แต่เรายังคงประมาณการกำไรปีนี้เอาไว้เท่าเดิม อย่างไรก็ตาม เราพร้อมจะปรับเพิ่มประมาณการเมื่อเห็นสัญญาณว่าผลขาดทุนรายการนี้ลดลง เรายังคงคำแนะนำขาย KKP (ราคาเป้าหมายปี 2565F ที่ 55 บาท อิงจาก P/E ที่ 8x)

 

Risks

ขาดทุนจากการขายรถยึด ความผันผวนรายได้วาณิชธนกิจ และกำไรจากการลงทุน