ยานยนต์ฟื้น ก.ย. 64 ส่งออกดันยอด 15.47% ผลคลายล็อกดาวน์ทั้งใน-ต่างประเทศ

วันที่ 21 ตุลาคม 2564 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เดือนกันยายน 2564 มีการผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 140,038 ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 6.43% แต่ยังเพิ่มขึ้น 34.47% จากเดือนสิงหาคมที่เคยลงไปแตะต่ำสุดในรอบ 13 เดือน เพราะปัญหาการขาดแคลนชิปและชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงลูกค้าถอนมัดจำเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐ 

ขณะที่ในเดือนกันยายนได้รับชิปและชิ้นส่วนแล้ว รวมทั้งเริ่มคลายล็อกดาวน์ ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจมากขึ้นต่อรายได้ในอนาคต เห็นได้ชัดจากจำนวนยอดจำหน่ายของโชว์รูม และจำนวนรถที่เข้าศูนย์บริการเพิ่มขึ้นในเดือนที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายในเดือนกันยายน อยู่ที่ 56,871 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 19.1% 

การผลิตรถยนต์ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้รวม 1,211,946 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 25.93% มั่นใจว่ายอดการผลิตรถยนต์ปีนี้จะถึงเป้า 1,600,000 คัน ถ้าสามเดือนที่เหลือส่งมอบชิปได้เหมือนในเดือนกันยายน รวมถึงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 คงที่ 
ขณะที่ยอดจำหน่าย 9 เดือนแรก 531,931 คัน ลดลง 0.5% จากช่วงเดือนกันของปีก่อน ซึ่งคาดว่าการเปิดประเทศจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคส่วนที่มียอดซื้อรถยนต์สูง จะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น รวมถึงงานมหกรรมรถยนต์ที่จะจัดขึ้น 1-12 ธันวานคมนี้ จะกระตุ้นให้ยอดจำหน่ายรวมปีนี้ได้ถึง 720,000 คัน 

ยอดการส่งออกรถยนต์เดือนกันยายน 2564 ส่งออกได้ 73,831 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อน 15.47% ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 44,777.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 21.80% เพราะได้รับชิปและชิ้นส่วนรถยนต์จากประเทศคู่ค้าที่คลายการล็อกดาวน์ จึงผลิตเพื่อส่งออกได้ถึง 58.04% ของยอดผลิตทั้งหมด เพื่อส่งออกชดเชยเดือนสิงหาคมที่ส่งออกต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ทำให้ส่งออกได้เพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาดยกเว้นตลาดเอเชียและตลาดอเมริกาเหนือที่ลดลง

อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามดูเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่หลายประเทศมียอดขายในประเทศชะลอลง เช่น ประเทศจีนมีปัญหาการขาดแคลนชิปและชิ้นส่วน ยอดขายรถยนต์ลดลงหลายเดือนติดต่อกัน ประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม ยุโรป 4 ประเทศใหญ่ สหราชอาณาจักร ตุรกี เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา บราซิล แต่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยอดขายรถยนต์ในประเทศยังคงเพิ่มขึ้น คาดว่าถ้าโรงงานผลิตรถยนต์ได้ชิปและชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นอีก จะทำให้ส่งออกรถยนต์ได้เกินเป้าที่ตั้งตั้งไว้สูงสุดที่ 850,000 คัน
 

ด้านยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนกันยายน 2564 ผลิตแบบสำเร็จรูป (CBU) จำนวน 110,017 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อน 37.01% ขณะที่การผลิตแบบชิ้นส่วนประกอบ (CKD) จำนวน 44,860 คัน เพิ่มขึ้น 55.01% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากหลายประเทศที่เคยนำเข้าแบบสำเร็จรูป เปลี่ยนมาสั่งซื้อแบบชิ้นส่วนแล้วนำไปประกอบเอง ยอดส่งออกรถจักรยานยนต์รวม 69,179 คัน เพิ่มขึ้น 20.41% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน รวมมูลค่าส่งออกเดือนกันยายน 5,250 ล้านบาท