'เพื่อไทย' นครพนม ปราศรัยใหญ่ 2 นายกฯ - แชมป์เก่า 'ศุภพานี' ชูสานโครงการเก่า
"เพื่อไทย" จ.นครพนม พร้อมเปิดปราศรัยใหญ่ 2 นายกฯ "ทักษิณ-แพทองธาร" ช่วยหาเสียงให้ "อนุชิต หงษาดี" ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคสร้างกระแสเปลี่ยนนครพนม เป็นเมืองหลัก ขณะที่แชมป์เก่า "ศุภพานี" ชูนโยบายต้องไปต่อ เพื่อสานโครงการเก่า
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงศึกเลือกตั้ง อบจ.นครพนม ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ. 2568 โดยทีมฮักนครพนม พรรคเพื่อไทย นำโดย นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัคร นายก อบจ.นครพนม เบอร์ 8 ลงพื้นที่หาเสียงรายวันทั้งเคาะประตูบ้าน จัดปราศรัยย่อย ทุกชุมชนหมู่บ้าน และเดินพบปะชูนโยบายตามตลาดชุมชน โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมีกำหนดการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 12 ม.ค. 2568 รวมถึงมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงจะขึ้นปราศรัยในวันที่ 18 ม.ค. 2568
ทั้งนี้ทีมฮักนครพนมหาเสียงโดยชูนโยบาย สิเฮ็ดดี เพื่อนครพนม ประกอบด้วย สิเฮ็ดโครงสร้างพื้นฐานดี สิเฮ็ด สาธารณสุขดี สิเฮ็ดเศรษฐกิจดี และ สิเฮ็ดคุณภาพชีวิตดี พร้อมปลุกกระแส เปลี่ยนแปลงนครพนม เป็นเมืองหลักแห่งการพัฒนาด้านการค้า เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ที่สำคัญของอีสาน รวมถึงการทำงานการเมืองรูปแบบใหม่ เน้นให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการเสนอทุกโครงการ
สำหรับภาพรวมการแข่งขันการเลือกตั้ง อบจ.นครพนม จะมีการขับเคี่ยวกันแค่ 2 ขั้วใหญ่ คือ นายอนุชิต ตัวแทนของพรรคเพื่อไทย เบอร์ 8 กับ แชมป์เก่า คือขวัญ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ ผู้สมัคร นายก อบจ.นครพนม แชมป์เก่า เบอร์ 2 ชื่อทีมนครพนมร่วมใจ ที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มของพรรคภูมิใจไทย โดยนางสาวศุภพานีเป็นบุตรสาวของนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย โดยนางสาวศุภพานีเน้นนโยบายนก้าวต่อไป และสานงานต่อ เน้นชูนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก
ขณะที่ นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัคร นายก อบจ.นครพนม เบอร์ 8 เปิดเผยว่า นโยบายของทีมฮักนครพนม อบจ.นครพนม จะต้องเป็นรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อสานต่อปัญหา เสนอนโยบายสายตรงไปยังรัฐบาลกลางพรรคเพื่อไทยให้ได้รับการดูแลแก้ไขทุกด้าน เชื่อว่าการมี นายก อบจ.นครพนม เป็นคนของพรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาล ทุกปัญหาจะต้องไม่ถูกมองข้าม สำคัญที่สุดงบประมาณ อบจ.นครพนม จะต้องถูกใช้ในการพัฒนาแบบกระจาย ไม่กระจุกไปที่โครงการใดโครงการหนึ่ง ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในการนำเสนอปัญหา เพื่อให้การพัฒนาทั่วถึงทั้ง 12 อำเภอ