พาณิชย์ เร่งเคลียร์ปมถุงมือยางสกัดผลกระทบส่งออกสหรัฐ
“จุรินทร์”นั่งหัวโต๊ะประธานสอบปมฉาว ส่งออกถุงมือยางไปสหรัฐ เร่งเคลียร์คดีให้จบใน 1 เดือน ป้องกันกระทบส่งออกถุงมือยางไปไทยสหรัฐ
ถือเป็นข่าวฮ๊อตในสัปดาห์นี้เลยทีเดียว เมื่อสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น สื่อยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ออกมาแฉการตรวจพบถุงมือแพทย์ที่สกปรกและผ่านการใช้แล้วนำเข้าจากประเทศไทยมายังสหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนหลายสิบล้านชิ้นหลังจากความต้องการถุงมือยางพุ่งขึ้นสูงเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยซีเอ็นเอ็นยังระบุว่า “แพดดี้เดอะรูม” บริษัทไทยที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้ากวาดล้างและพบว่าเป็นแหล่งนำเอาถุงมือยางใช้แล้วมาทำความสะอาด แล้วบรรจุกล่องเพื่อส่งออกใหม่ เพียงบริษัทเดียวก็ส่งออกถุงมือยางหลายสิบล้านชิ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายเดือนต่อมา บางส่วนเพิ่งเดินทางถึงสหรัฐอเมริกาเมื่อ เดือนก.ค. ประเด็นดังกล่าวเป็นข่าวอื้อฉาวที่กระทบต่อภาพลักษณ์ไทยและการส่งออกถุงมือยางของไทยในตลาดสหรัฐ
ร้อนถึงนายกฯตู่“พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”นายกรัฐมนตรี สั่งการทันทีให้บิ๊กอู๊ดด๊า “จุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่ดูแลในเรื่องของการส่งออกไทย ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย”บิ๊กตู่”ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถุงมือยางไปนอกราชอาณาจักร มีนายจุรินทร์ เป็นประธาน ซึ่งได้ประชุมนัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา
อ่านข่าว : เช็คประวัติ 4 ผู้ถือหุ้น “แพดดี้ เดอะรูม” คีย์แมนคดี “ถุงมือยาง” ส่งออกสหรัฐฯ
มีผลสรุปคือเร่งรัดการดำเนินคดี พร้อมสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือในการสืบสวนสวนเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจน และป้องกันไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกถุงมือยางของไทยไปยังสหรัฐ ในส่วนของคดีนั้น นายจุรินทร์ เผยว่า ทางสำนักงานทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ได้ รายงานว่า ปัจจุบันมีคดีทีเกี่ยวข้องกับถุงมือยางทางการแพทย์ที่ถูกดำเนินคดีแล้ว 15 คดี โดยหนึ่งในนั้นมีกรณีที่เกี่ยวกับกับ บริษัท แพดดี้ เดอะ รูม เทรดดิ้ง จำกัด (Paddy the Room Trading Co., Ltd) 1 คดี ซึ่งตำรวจได้มีความเห็นสั่งฟ้อง และอัยการก็มีความเห็นสั่งฟ้องแล้วเช่นกัน
ส่วนกรณีถุงมือยางยี่ห้อ SKYMED ที่ปรากฏในข่าวซีเอ็นเอ็นได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป พร้อมยืนยันว่าจะเร่งรัดดำเนินการสืบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน
ปมปัญหาการส่งออกถุงมือยางใช้แล้วหรือถุงมือยางมือสองไปยังตลาดสหรัฐ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการส่งออกถุงมือยางไปสหรัฐและภาพลักษณ์ของไทย แต่ผู้ส่งออกและผู้ผลิตต่างออกมาประสานเสียงว่ายังไม่มีผลกระทบต่อการอุตสาหกรรมส่งออกถุงมือยางไทย โดยนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.)แสดงความมั่นใจว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกถุงมือยางของไทย เพราะเป็นเรื่องเฉพาะรายเท่านั้น แต่ผู้ส่งออกไทยจะต้องรักษามาตรฐานการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานการส่งออกสินค้า ขณะที่ผู้บริหารบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและส่งออกถุงมือยางรายใหญ่ของประเทศ ก็มั่นใจเช่นกันว่า ไม่กระทบต่อการส่งออกแน่นอน
จากข้อมูลพบว่า ตลาดสหรัฐ ซึ่งถือเป็นตลาดการส่งออกถุงมือยางอันดับ 1 ของไทย โดย 9 เดือนแรกของปีนี้คือตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. มีมูลค่า 1,185 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 111.3 % รองลงมาเป็นเยอรมัน เนเธอร์แลนด์ ขณะภาพรวม 9 เดือนแรกของการส่งออกถุงมือยางทั่วโลกของไทยมีมูลค่า 2,601.7 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 80.4 % โดยสหรัฐยังคงครองอันดับ 1 ตลาดส่งออกสำคัญของไทย ทั้งคาดว่าการส่งออกถุงยางไทยไปทั่วโลกในปี 64 จะโตเกิน 100 % โดยถุงมือยางเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ปัจจุบันมีความต้องการสูงมากและยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย เพราะการแพร่ระบาดของโควิด 19 โดยไทยถือเป็นประเทศที่ส่งออกถุงมือยางเป็นอันดับต้นๆของโลก
“เราตรวจสอบข้อเท็จจริงออกมาแล้ว มีความชัดเจน มันก็เป็นการช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศด้วยว่า อะไรไม่ถูกต้อง เราไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไป และเราไม่สนับสนุน และจัดการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดด้วย เป็นบวกด้วยซ้ำถ้าเราทำ และทุกอย่างชัดเจน” นายจุรินทร์ กล่าวย้ำ