LH Bank ยกระดับ การให้บริการด้านการเงินครบวงจร “The Advisory Branch”
LH Bank เปิดตัว “The Advisory Branch” เพื่อยกระดับการให้บริการด้านการวางแผนทางการเงินและการลงทุนแบบครบวงจร พร้อมให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ตอกย้ำจุดยืนเป็นธนาคารที่ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า พร้อมปรับโฉม 10 สาขานำร่อง
นายพีรพัฒน์ เกษบุญชู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Omni Channel Management ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้นในทุกช่องทาง สำหรับช่องทางสาขาเราได้พัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ และสามารถให้คำปรึกษาด้านการวางแผนทางการเงินได้ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเพื่อบริหารสภาพคล่อง การวางแผนการลงทุนเพื่อต่อยอดความมั่งคั่ง การวางแผนภาษี การวางแผนความคุ้มครองเพื่อป้องกันความเสี่ยง การสร้างแผนเกษียณหรือหลักประกันแก่ทายาทที่เหมาะสมกับลูกค้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายของธนาคาร
ล่าสุดธนาคารได้ยกระดับการให้บริการ ด้วยการปรับโฉมสาขารูปแบบใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Advisory Branch โดยเน้นการให้บริการที่ปรึกษาด้านวางแผนการลงทุนทุกรูปแบบอย่างเจาะลึกผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเน้นให้บริการแบบเป็นส่วนตัวเฉพาะบุคคล เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการในการลงทุนของลูกค้าอย่างตรงจุด
ทั้งนี้ The Advisory Branch รูปแบบสาขาใหม่ของ LH Bank ลูกค้าจะได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด และรองรับทุกความต้องการด้านการเงินส่วนบุคคลและธุรกิจ โดยมีรูปแบบบริการดังนี้
1. Financial Advisory Service บริการให้คำปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำสาขาที่ผ่านการฝึกอบรมในด้านการให้คำปรึกษา การวางแผนการเงิน การลงทุน และนำเสนอทางเลือกในการลงทุนที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของลูกค้าอย่างมืออาชีพ
2. Specialist Advisory Service บริการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อบุคคล และการลงทุนเชิงลึกผ่านระบบ Digital Video Conference เพื่อรับคำปรึกษาและสอบถามข้อมูลแบบส่วนตัวได้ทันที
“LH Bank ให้ความสำคัญกับเป้าหมายของลูกค้า และเข้าใจถึงความต้องการทางการเงินที่แตกต่างกัน เราจึงให้บริการลูกค้าแบบเป็นส่วนตัวเฉพาะบุคคล หรือ Segment of One เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของเราสามารถให้คำแนะนำการลงทุนได้ในสินทรัพย์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อ เงินฝาก ตราสารหนี้ ผลิตภัณฑ์กองทุนรวมทั้งในและต่างประเทศ สินทรัพย์ทางเลือก เพื่อรองรับทุกความต้องการ รวมถึงความสามารถในการบริหารความเสี่ยงด้านการเงินของลูกค้าแต่ละบุคคล ซึ่งเรามีความพร้อมในการให้บริการที่ปรึกษาทางด้านการเงิน สำหรับลูกค้าบุคคลทั่วไป, ผู้บริหาร และเจ้าของธุรกิจที่มีความสนใจผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนแบบครบวงจร โดยเฉพาะข้อมูลการลงทุนแบบเจาะลึกจากพันธมิตรชั้นนำของธนาคาร” นายพีรพัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจ สามารถใช้บริการได้แล้ว 10 สาขา ได้แก่ สำนักลุมพินี, สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต, สาขาดิโอลด์ สยาม, สาขาแฟชั่น ไอส์แลนด์, สาขาพาราไดซ์ พาร์ค, สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, สาขาคริสตัล เอกมัย รามอินทรา, สาขาเทอร์มินอล 21 อโศก, สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และสาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ และตั้งเป้าให้ครบทุกภูมิภาคของประเทศในปี 2565 เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมให้มากที่สุด