Sideways เก็งกำไร KBANK TOP BAM (30 ธ.ค. 2564)

มีเป้าหมายต่อไปที่ 1680 / 1700 จุด ตามลำดับ ไฮไลท์วันนี้ การแพร่ระบาดของ Omicron ในประเทศ และการทำราคาปิดก่อนสิ้นงวดบัญชี

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

        KTZ Portfolio: Mid-Small Cap แนะนำ AU TPIPL; Big Cap แนะนำ GULF RBF CK TCAP ADVANC GUNKUL MEGA COM7 KTB TRUE PLANB TTB DTAC

       +กลุ่มโรงกลั่น: รับผลบวก จากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แนะนำ PTTEP SPRC TOP ESSO BCP

       +กลุ่มธนาคาร: เก็งกำไรรับดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ Consensus คาดกำไร 4Q21E ยังคงเติบโต YoY แนะนำ TCAP TTB TISCO BBL KBANK SCB

 

ปัจจัยบวก

      แรงซื้อนักลงทุนต่างชาติ: วานนี้ ซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 อีก + 6,131.72 ล้านบาท และเปิด Long SET50 Index Future สูงถึง 15,767 สัญญา

      แรงซื้อกองทุน เพื่อลดหย่อนภาษี: โมเมนตัมบวกต่อตลาดหุ้นไทย ส่วนหนึ่งจะมาจากแรงซื้อกองทุนหุ้น (SSF, RMF) โค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี เพื่อลดหย่อนภาษี

 

ปัจจัยลบ

       COVID-19: Omicron ยังคงระบาดต่ออย่างรวดเร็ว ล่าสุดระบาดไปแล้วกว่า 20 จังหวัด ยอดผู้ติดเชื้อ 740 ราย

       เทศกาลหยุดยาวปีใหม่: กระแสเงินทุนต่างชาติที่ช่วยสนับสนุนหุ้นไทยแรลลี่ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาจปรับลดลงเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

 

 

 

ประเด็นสำคัญ

        - ตัวเลขดุลการค้าของไทยเดือน พ.ย. คาดขาดดุลที่ USD1.3bn

        - ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดย Consensus คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2.02 แสนราย เป็น 2.05 แสนราย

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
 

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ดัชนีฯ วานนี้ปรับตัวบวกขึ้นได้ตลอดทั้งวัน ปิดที่ 1653.33 จุด +11.81 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.2 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มธนาคาร +1.33% กลุ่มพาณิชย์ +1.21% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +1.21% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +1.14% หุ้นบวก >4% TRC BYD SITHAI SNNP TFG BTSGIF MPIC MFEC BEYOND AMANAH JWD หุ้นลบ >4% TWZ DELTA ROH SMK BWG PPPM RBF TRITN

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดคละ: DJIA +0.25% S&P500 +0.14% NASDAQ -0.10% ปรับตัวบวกได้เล็กน้อย หลังตลาดคลายความกังวลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Omicron แต่ยังมีแรงเทขายออกมาในหุ้นกลุ่มเทคฯ ฉุดดัชนี NASDAQ ติดลบเล็กน้อย ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ CAC40 -0.27% DAX -0.70% FTSE +0.66% แรงเทขายมาจากความกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ที่เพิ่มสูงขึ้น และแรงขายหุ้นกลุ่มเทคฯ กลุ่ม Health Care และกลุ่มท่องเที่ยว

+/- น้ำมันปิดบวก ส่วนทองคำปิดลบ: น้ำมัน WTI +58 เซนต์ ปิดที่ USD76.56/บาร์เรล Brent +29 เซนต์ ปิดที่ USD79.23/บาร์เรล ปิดบวก หลังจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลงสูงกว่าคาดที่ -3.58 ล้านบาร์เรล (Vs คาดที่ -3.14 ล้านบาร์เรล) ส่วนทองคำ -USD5.10 ปิดที่ USD1,805.80/ออนซ์ จาก Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้นแรง

 

ประเด็นสำคัญ

- USA: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยในวันนี้ว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นของการขาดดุลการค้าสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 17.5% สู่ระดับ 9.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 8.32 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือน ต.ค. ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ามากเป็นประวัติการณ์ในเดือน ก.ย. โดยอยู่ที่ระดับ 9.70 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ การนำเข้าเพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือน พ.ย. ขณะที่การส่งออกลดลง 2.1%

- Japan: เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่ากรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ จำนวน 76 ราย ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. นอกจากนี้ ค่าเฉลี่ยรอบ 7 วันของจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในกรุงโตเกียวอยู่ที่ระดับ 44.9/วัน เพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี กรุงโตเกียวไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ จากการติดเชื้อ COVID-19 ในวันนี้ ส่วนจังหวัดโอซาการายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ จำนวน 61 ราย ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.

- Thailand: อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีที่เนื้อหมูปรับราคาแพงสูงขึ้นในท้องตลาด สาเหตุมาจากปัจจัยเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น อาหารสัตว์ ยาในการรักษาโรค แล้วยังมีปัจจัยเรื่องการพบโรคระบาดในสุกรที่ก่อความเสียหายต่อสุกรมีชีวิตที่จะเข้าสู่ตลาด เนื่องจากต้องมีการทำลายสุกรมีชีวิต เพื่อควบคุมโรค ส่งผลทำให้สุกรขาดตลาด

 

 

 

 

 

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนา Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรำยสัปดำห์: PLANB CK ADVANC

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: KBANK TOP BAM
Derivatives: Wait & see (ติดตำมรำยละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)