จับตา! ‘แต้ว ณฐพร’ ศิลปินเบอร์แรก สานภารกิจช่อง 3 รุกธุรกิจเพลง
เมื่อธุรกิจสื่อ ไม่จำกัดกรอบแค่เป็นสถานีโทรทัศน์ นำเสนอข้อมูล ข่าวสาร ความบันเทิง แต่ในโลกดิจิทัล ค่ายสื่อพยายาม “ทรานส์ฟอร์ม” สู่การเป็นคอนเทนท์โปรวายเดอร์ คือสร้างสรรค์เนื้อหา รายการต่างๆเจาะคนดูทุกเพศ ทุกวัย ช่อง 3 ลุยธุรกิจเพลง ปั้น "แต้ว ณฐพร" แจ้งเกิดบทบาทใหม่
ช่อง 3 ภาพเดิม 50 ปี คือการเป็นสถานีโทรทัศน์เบอร์ต้นๆของเมืองไทย การอยู่ในธุรกิจดั้งเดิม ทำทีวีดิจิทัลไม่เพียงพอในการฝ่ากระแสการเปลี่ยนแปลงรอบทิศ ยิ่งกว่านั้น พฤติกรรมคนดูที่เปลี่ยนไป มีช่องทางในการบริโภคหรือเสพสื่อหลากหลายมากขึ้น ทำให้การปรับตัวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดช่อง 3 ประกาศลุยธุรกิจเพลง พร้อมประเดิมส่ง “นางเอก”แถวหน้าของช่องอย่าง “แต้ว ณฐพร” ขึ้นแท่นศิลปินเบอร์แรกรับศักราชใหม่ 2565 ด้วย
ทั้งนี้ กลยุทธ์การรุกธุรกิจเพลง ถือเป็นจิ๊กซอว์ในการต่อยอดธุรกิจใหม่ สานวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในธุรกิจคอนเทนต์และตลาดเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และการส่งนักแสดงที่มีศักยภาพทางด้านเพลงขึ้นแท่นเป็นศิลปินเพลงเต็มตัวจึงเกิดขึ้น
สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจโทรทัศน์ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด(มหาชน) เล่าว่า การต่อยอดนักแสดงของช่อง 3 เข้าสู่วงการเพลงนั้น เป็นหนึ่งในแผนที่เราได้วางไว้ในปี 2565 โดยช่อง 3 นั้น มีนักแสดงที่มีศักยภาพอยู่จำนวนมาก โดยแต่ละคนก็มีความสามารถที่แตกต่างกันไป และหนึ่งในนั้นคือการเป็นศิลปิน นักร้อง มีความสามารถด้านการเต้นนั่นเอง
สำหรับการเลือกศิลปินเบอร์แรกเพื่อเปิดตัว คือ “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” เนื่องจากมองเห็นแล้วว่าแต้วเป็นนักแสดงที่มีศักยภาพสูงทั้งในด้านการแสดงที่สามารถเข้าถึงบทบาทได้อย่างหลากหลาย และยังเป็นนักแสดงที่มีความสามารถด้านการร้องเพลงและการเต้น ตอบโจทย์ทุกด้าน มีความพร้อมที่จะขึ้นแท่นเป็นศิลปินเบอร์แรก
“แต้ว ณฐพร” เดบิวต์เป็นศิลปินเพลงเบอร์แรกของช่อง 3
ทั้งนี้ การปลุกปั้น “แต้ว ณฐพร” สู่บทบาทนักร้อง ได้มีการทำเพลงออกมา ภายใต้อัลบั้ม “BABYBOO” ซึ่งการโปรโมทและสื่อสารการตลาด ช่อง 3 มีศักยภาพ และพร้อมรอบด้านในการใช้สื่อที่มีสร้างการรับรู้และเข้าถึงแฟนๆ ผู้ฟังทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อออนไลน์ โซเชี่ยลมีเดียแพลตฟอร์มของทางช่อง ตลอดจนจนแพลตฟอร์มอื่น
ก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า “แต้ว ณฐพร” มีการซ้อมเต้น ผ่านสื่อออนไลน์ของตัวเอง โดยเฉพาะ Instagram ซึ่งเกิดกระแสในเชิงบวกและลบจำนวนมาก แต่เจ้าตัวไม่เคยออกมาแสดงความเห็นหรือตอบโต้แต่อย่างใด ซึ่งทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงการฝึกซ้อม เตรียมพร้อมในการเป็นศิลปินเพลง “คนแรก” ของช่องนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ภารกิจดังกล่าว ถือว่ามีความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับทั้งศิลปิน และแม่ทัพ อย่าง “สุรินทร์” เนื่องจากปัจจุบัน พฤติกรรมผู้ชม ผู้ฟังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเสพสื่อที่ไร้พรมแดน ทำให้เลือกเปิดรับศิลปินหน้าใหม่และเก่าได้กว้างขวางจากทั่วทุกมุมโลก ยิ่งกว่านั้นศิลปินเพลงเป็นอีกหนึ่งตลาดที่การ “แข่งขัน” สูงมาก เพราะนับวันคนเก่ง มากความสามารถ มีพรสวรรค์เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก
สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ แม่ทัพสายธุรกิจโทรทัศน์ช่อง 3
สำหรับก้าวใหม่ของช่อง 3 ครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จแค่ไหน จะมีส่วนกอบกู้รายได้ การเติบโตของช่องกลับมาอย่างไรบ้าง ต้องดูกันยาวๆ เพราะหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจสื่อเจอสารพัดคลื่นพายุกระทบธุรกิจจนซวนเซ รายได้หดตัว โดยปี 2561 บีอีซีฯ เคยทำรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท แต่ขาดทุนกว่า 300 ล้านบาท ปี 2562 รายได้หดตัวลงมาอยู่ที่กว่า 8,000 ล้านบาท ขาดทุนกว่า 390 ล้านบาท ปี 2563 รายได้ลดมาอยู่ที่กว่า 5,900 ล้านบาท ขาดทุนกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ระบาด
ขณะที่ปี 2564 ธุรกิจพลิกทำกำไร โดย 9 เดือน อยู่ที่ 400 กว่าล้านบาท เนื่องจากบริหารจัดการต้นทุนให้ลดลงรับกับสถานการณ์เม็ดเงินโฆษณาในตลาดหดตัว การลุยธุรกิจจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ละครไปยังตลาดต่างประเทศ เป็นต้น