พลังแห่ง Branding กับโอกาสการมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลกผ่านการลงทุน
การสร้าง Branding มีบทบาท และมีอิทธิพลกับผู้บริโภคที่จะเลือกซื้อ และใช้บริการเป็นอย่างมาก บางท่านอาจนึกภาพได้ไม่ชัดเจนนัก ฉะนั้น บทความนี้จะพยายามฉายภาพความสำคัญของ Branding และความเชื่อมโยงให้รู้ว่าแบรนด์ที่ดีช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้อย่างไร
รสนิยมการอุปโภคบริโภคนั้นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บ่งบอกถึงความหลากหลายของมนุษยชาติ บางท่านดื่มกาแฟร้านไหนก็ได้ ขอแค่ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นและหายง่วง หรือบางท่านอาจจะเลือกใช้มือถือยี่ห้อไหนก็ได้ ขอแค่มีฟังก์ชันครบตามที่ต้องการ แต่สำหรับบางกลุ่มนั้นซึ่งอาจจะเป็นคนกลุ่มใหญ่มากๆ การจะเลือกใช้สินค้าหรือบริการต่างๆ ได้ อาจจะต้องพิถีพิถันกันพอสมควร และเมื่อตัดสินใจซื้อและเชื่อมั่นในสินค้ายี่ห้อใดแล้ว ก็มักจะเลือกซื้อสินค้ายี่ห้อนั้นต่อแบบไม่ลังเลในการตัดสินใจ การสร้าง Branding จึงเข้ามามีบทบาทและมีอิทธิพลกับคนกลุ่มนี้ บทความนี้จะพยายามฉายภาพของ Branding ให้เห็นว่ามันมีความสำคัญ และเชื่อมโยงอย่างไรกับการเติบโตของบริษัท
Branding กุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตแบบยั่งยืน
ปัจจุบันต้องยอมรับว่าพฤติกรรมการใช้สินค้า และบริการของคนยุคใหม่นั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ตลาดแข่งขันกันได้ค่อนข้างเสรี แต่เชื่อหรือไม่ว่าโอกาสที่ธุรกิจเหล่านั้นจะอยู่รอดได้ในระยะยาวมีน้อยมากๆ ดังนั้น การสร้างแบรนด์ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
การสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จนั้น อาจจะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ซึ่งแบรนด์ที่สามารถทำให้ติดตลาดได้นั้น จะเปรียบเสมือนสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ แต่มีมูลค่ามหาศาล เช่น บริษัท Apple เจ้าของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก มีมูลค่าแบรนด์ถึง $612 พันล้านดอลลาร์ หรือ Nike ก็มีมูลค่าแบรนด์สูงถึง $83.7 พันล้านดอลลาร์ (ข้อมูล ณ ตุลาคม 2021)
ทั้งนี้ แบรนด์ที่แข็งแกร่ง ยังเป็นเหมือนการสร้างเอกลักษณ์ให้กับธุรกิจที่ยากจะทดแทน เสริมความสามารถในการแข่งขัน และความสามารถในการกำหนดราคา ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจสามารถดึงดูดผู้บริโภค และดึงดูดนักลงทุน เนื่องจาก แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะสะท้อนไปยัง ส่วนแบ่งการตลาดที่สูง งบการเงินที่ดี มีการเติบโตของรายได้และกำไรในระดับสูง
ภาพ (1) แสดงแบรนด์ที่มีมูลค่าอันดับต้นๆ ในแต่ละช่วงเวลา
อะไรคือคุณลักษณะสำคัญที่จะทำให้แบรนด์เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปได้หลังจากนี้?
จากภาพ (1) จะเห็นว่าแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงเหล่านั้น ในทุกๆ 20 ปี จะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน มีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น ที่สามารถรักษามูลค่าของแบรนด์ไว้ได้อย่างยาวนาน ซึ่งในยุคนี้แบรนด์ที่จะสามารถยืนระยะอยู่ได้ จะต้องมี 3 คุณลักษณะที่สำคัญ ดังนี้
1. เน้นความยั่งยืน (Go Sustainability)
มีการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำมาใช้หมุนเวียนได้ ธุรกิจที่ช่วยแก้ปัญหาด้านมลภาวะ อย่างเช่น รถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจพลังงานสะอาด ล่าสุด ณ การประชุม COP26 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา เราได้เห็นนานาชาติให้ความสำคัญกับประเด็นโลกร้อน โดยเฉพาะการที่ผู้แทนจากจีน และสหรัฐ ประกาศร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งการร่วมมือกันระหว่าง 2 ชาตินี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก สะท้อนว่าปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นวาระที่สำคัญ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกจะต้องตื่นตัว
2. เน้นขยายตลาดในทวีปเอเชีย (Go Asia)
ตลาดในทวีปเอเชีย ถือว่าเป็นตลาดใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประชากรจีน กลุ่ม Millennial และ Gen-Z จะเป็นกลุ่มหลักที่จับจ่ายสินค้า Luxury และยังคาดว่าแนวโน้มนี้จะเกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียอีกด้วย
Lombard Odier ได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า การจับจ่ายสินค้ากลุ่ม Luxury ในประเทศจีน จะมีสัดส่วนถึง 40% ของทั้งโลก ภายในปี 2025 ดังนั้น แบรนด์ใดที่จับตลาดกลุ่มประเทศฝั่งเอเชีย ก็มีแนวโน้มที่จะสร้างมูลค่าแบรนด์ให้เพิ่มขึ้นได้หลังจากนี้ ยกตัวอย่าง Hermes แบรนด์กระเป๋าชื่อดังจากฝรั่งเศส ซึ่งมีรายได้ปี 2021 ช่วง 9 เดือนแรก มาจากทวีปเอเชียกว่า 49% โดยในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา Hermes มีกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยได้สูงถึง 15% ต่อปี
ภาพ (2) รายได้ Hermes ที่เติบโตขึ้นตามภูมิภาค
3. เน้นช่องทางDigital(Go Digital)
ในยุคที่ทุกคนใช้เวลาส่วนมากไปกับโลก Digital การทำตลาดโดยเน้นช่องทางนี้ก็เปรียบเสมือนกับการย้ายห้างสรรพสินค้าขึ้นมาสู่ Digital Platform ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญของการสร้างแบรนด์ในยุคใหม่ แบรนด์ใดที่สามารถครองใจชาว Social Media ได้ ก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เช่นบริษัท Nike ที่หันมาเน้นขายสินค้าในช่องทางออนไลน์มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 ยอดขายของ Nike กว่า 50% จะมาจากช่องทาง Digital และล่าสุด Nike ได้ร่วมมือกับ Roblox ผู้พัฒนาเกมชื่อดังในสหรัฐ เพื่อสร้างโลกเสมือน (Metaverse) โดยใช้ชื่อว่า Nikeland พร้อมกับได้ยื่นเครื่องหมายการค้าใหม่ ซึ่งระบุถึงความตั้งใจที่จะทำ และขายรองเท้าผ้าใบ และเครื่องแต่งกายแบรนด์ Nike แบบเสมือนจริง
จะเห็นได้ชัดเจนว่าแบรนด์ที่มีการเติบโตได้เร็วที่สุด 10 อันดับแรกในปี 2021 ล้วนแล้วแต่มีคุณลักษณะ 3 ข้อที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น Tesla ที่เน้นด้านพลังงานสะอาด, Lululemon ผู้นำด้านอุปกรณ์กีฬาสัญชาติแคนาดา ที่ในปี 2021 ขยายสาขาในทวีปเอเชียแปซิฟิก ไปกว่า 12 สาขา (จากทั้งหมด 18 สาขา) หรือ JD.com ที่เป็น Platform E-Commerce ชื่อดังในจีน ดังนั้น การสร้างแบรนด์ ให้ถูกทิศทาง ตอบโจทย์โลกยุค Digital น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะสะท้อนไปยังส่วนแบ่งการตลาดที่สูง งบการเงินที่ดี มีการเติบโตของรายได้ และกำไรในระดับสูง ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก
Source: Lombard Odier, Hermes Company Presentation, Visualcapitalist.com
ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสม และรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยง และเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2-633-6000 กด 4, 02-080-6000 กด 4 และเวบไซต์ tiscoasset หรือ แอพพลิเคชั่น TISCO My Funds
