จีนรั้งแชมป์โอนคอนโดสูงสุดมูลค่า2.29หมื่นล้าน!

จีนรั้งแชมป์โอนคอนโดสูงสุดมูลค่า2.29หมื่นล้าน!

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติผ่านจุดต่ำสุด ปี 2564 สัญชาติจีนโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดมูลค่าถึง 2.29 หมื่นล้านบาท

สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติได้ผ่านพ้น"จุดต่ำ"สุดในไตรมาส 3 ปี 2564 มาแล้ว แต่ในไตรมาส 4 ปี 2564 ยังคงชะลอตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์"โอมิครอน" ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลจีน ซึ่งเป็นสัญชาติที่เป็นกำลังซื้อหลักของตลาดห้องชุดในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการจำกัดการออกหนังสือเดินทาง

     โดยจะออกให้กับผู้ที่มีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา การทำงาน และการทำธุรกิจ เท่านั้น และจะระงับการออกหนังสือเดินทาง สำหรับการเดินทางที่ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิดในต่างประเทศ ยังคงรุนแรง และการเดินทางข้ามพรมแดน ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูง เนื่องจาก รัฐบาลจีนยังคงยึดมั่นในแนวทาง “ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นศูนย์” ส่งผลให้มีการดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดต่อไป

    ภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ ทั่วประเทศ ในไตรมาส 4 ปี 2564 มีจำนวน 2,073 หน่วย ลดลงร้อยละ -20.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่มีจำนวนหน่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปี ในช่วงโควิด-19  (ปี 2563 – 2564) ที่มีจำนวน 2,061 หน่วย/ไตรมาส โดยมีมูลค่าการโอนห้องชุดรวม 9,888 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -22.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ทั้งนี้ มูลค่าการโอนในไตรมาสนี้ ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปี ในช่วงโควิด-19 ที่มีมูลค่า 9,668 ล้านบาท/ไตรมาส

ด้านพื้นที่ห้องชุดที่คนต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสนี้ รวม 92,043 ตารางเมตร ลดลงร้อยละ -12.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) พื้นที่ห้องชุดที่โอนในไตรมาสนี้ สูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปี ในช่วงโควิด-19 ที่มีพื้นที่ 87,075 ตารางเมตร/ไตรมาส 

    "วิชัย วิรัตกพันธ์ "ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงทิศทางความเปลี่ยนแปลงของการโอนกรรมการห้องชุดของคนต่างชาติว่า จากจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในไตรมาส 4 ปี 2564 ที่มีจำนวนสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปี ในช่วงโควิด-19 รวมทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลของไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)  พบว่า มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ แสดงให้เห็นว่า สถานการณ์การโอนห้องชุดของคนต่างชาติ ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ปี 2564 มาแล้ว

    ภาพรวมในปี 2564 ทั้งปี การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ ทั่วประเทศ มีทิศทางและแนวโน้มที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2563 หลังจากชะลอตัวมาตั้งแต่ปี 2562 แม้ว่าจะมีจำนวน 8,198 หน่วย ลดลงร้อยละ -1.1 เมื่อเทียบกับปี 2563 (YoY) แต่เป็นการชะลอตัวที่มีอัตราที่ลดลง โดยมีมูลค่าการโอน รวม 39,610 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 และมีพื้นที่ห้องชุดที่โอนทั้งหมด รวม 355,315 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับปี 2563 (YoY) 

จีนรั้งแชมป์โอนคอนโดสูงสุดมูลค่า2.29หมื่นล้าน!

อย่างไรก็ตามสัญชาติคนต่างชาติที่รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด "ชาวจีน" เป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ โดยปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีนไปแล้วทั้งหมด 4,867 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 59.4 ของหน่วยทั้งหมด

โดยมี 4 สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์อันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 306 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 3.7 ถัดมาคือ สหราชอาณาจักร จำนวน 280 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 3.4 สหรัฐอเมริกา จำนวน 279 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 3.4 อันดับ 5 มีจำนวนหน่วยเท่ากันคือ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส จำนวน 234 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 2.9ตามลำดับ

หากพิจารณาย้อนหลังไปจนถึงปี 2561จะพบว่า ชาวจีน ยังคงเป็นสัญชาติที่นิยมซื้อห้องชุดในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนในแต่ละปีสูงกว่าร้อยละ 50 ของหน่วยทั้งหมด และลำดับรองลงมาส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป โดยมีสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 7 ทั้งนี้ สัญชาติที่นิยมเข้ามาซื้อห้องชุดในประเทศไทยตั้งแต่ ปี 2561 ถึง ปี 2564 ที่มีจำนวนหน่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และ สหรัฐอเมริกา ตามลำดับ 

    ในปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้ชาวจีน เป็นมูลค่าสูงสุด จำนวน 22,874 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 57.7 ของมูลค่าทั้งหมด ส่วน 4 สัญชาติที่มีมูลค่าการโอนรองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 1,299 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 3.3 ถัดมาคือ สหราชอาณาจักร จำนวน 1,252 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 3.2 วานูอาตู จำนวน 1,113 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 2.8 และเยอรมัน จำนวน 996 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 2.5 ตามลำดับ เป็นที่น่าสังเกตว่า ชาววานูอาตู มีมูลค่ารับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสะสมในปี 2564 สูงสุดเป็นลำดับที่ 4 แต่มีจำนวนหน่วยสะสมเพียง 59 หน่วย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าห้องชุดเฉลี่ยต่อหน่วยสูงถึง 18.9 ล้านบาท