TCMA ประกาศ ‘MISSION 2023’ ร่วม 25 พันธมิตร ลดก๊าซเรือนกระจก 1,000,000 ตัน CO2
สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ประกาศ ‘MISSION 2023’ ผนึก 25 พันธมิตร ภาครัฐ ภาควิชาชีพ ภาคอุตสาหกรรม และภาคการศึกษา มุ่งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก 1,000,000 ตัน CO2 ใน 2 ปี ยกระดับสู่
ความเป็นกลางทางคาร์บอน พลิกโฉมปูนซีเมนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) กล่าาว่า ‘MISSION 2023’ เป็นภารกิจที่สมาคมฯ เดินหน้าทำงานร่วมกับพันธมิตร เพื่อยกระดับสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน สาขากระบวนการทางอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ มาตรการทดแทนปูนเม็ด ด้วยการมุ่งผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 1,000,000 ตัน CO2 ภายในปี 2566
“อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เป็นอุตสาหกรรมแรกของไทยที่เข้ามาตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายแรกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 300,000 ตัน CO2 ในช่วงสิ้นปี 2564 จากแผนเดิมที่วางไว้ 1 ปี จากนี้พร้อมกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเปลี่ยนมาใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกในการก่อสร้างทุกประเภท เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร่วมกัน”
สำหรับการประกาศ ‘MISSION 2023’ นี้ TCMA ได้ทำงานไปพร้อมกับ 25 หน่วยงานที่มีเป้าหมายเดียวกัน โดยการสนับสนุนของ 6 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์
รวมถึงภาควิชาชีพ ภาคอุตสาหกรรม และภาคการศึกษา ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนให้สำเร็จ ทั้งด้านการปรับปรุงมาตรฐานด้านการก่อสร้างของหน่วยงานด้านการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ด้านการส่งเสริมการใช้งาน ด้านการสร้างความรู้ความเข้าใจ และด้านการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์
ปัจจุบัน เทรนด์โลกเปลี่ยนมาใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะสามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกลดโลกร้อน อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ มุ่งยกระดับให้ตลอดกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์สามารถมีส่วนช่วยลดก๊าซเรือนกระจก
อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ของไทยจึงทำการวิจัยและพัฒนาด้านวัสดุศาสตร์ รวมถึงนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต เป็น “ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก” ที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกให้กับประเทศในภาพรวมหากมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย รวมทั้งสามารถตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวทาง BCG และนำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การบูรณาการความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นแนวทางสำคัญที่สนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตามนโยบายของภาครัฐ อีกทั้งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย หรือ Thailand Climate Action Conference (TCAC)
ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเป็นเจ้าภาพหลักจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2565 โดยกระทรวงทรัพยากร-ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานในสังกัด ในฐานะผู้รับผิดชอบของไทยตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมร่วมขับเคลื่อน ‘MISSION 2023’ ให้บรรลุเป้าหมาย
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญต่อการยกระดับอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียวอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต ดังเช่นมาตรการทดแทนปูนเม็ดนี้
ที่มีการวิจัยพัฒนาและนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก รวมทั้งการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 2594-2556 เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้งานในการมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมยินดีสนับสนุนและส่งเสริมให้หน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการขนส่งทางรางการรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ในสังกัด เข้ามาร่วมขับเคลื่อนด้วยการปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุก่อสร้าง ประเภทปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ในงานก่อสร้างประเภทต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายใหม่ ‘MISSION 2023’
ลดก๊าซเรือนกระจก 1,000,000 ตัน CO2 ภายในปี พ.ศ. 2566 ตามเจตนารมณ์
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงได้กำหนดนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้หน่วยงานในสังกัด
รับไปดำเนินการ ครอบคลุมการลดความเสี่ยง/ความเสียหายและบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติอันเนื่องมาจาก
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเตรียมความพร้อมของชุมชนในการปรับตัว การจัดทำแนวทางลดก๊าซเรือนกระจกระดับจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการปรับแก้ไขมาตรฐานด้านวิศวกรรม ในงานก่อสร้างอาคาร ด้วยมาตรฐาน มยผ. 1101 ถึง มยผ. 1106 เป็นต้น ในความร่วมมือ ‘MISSION 2023’ นี้ จึงยินดีส่งเสริมให้หน่วยงานสังกัด และส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุก่อสร้าง ประเภทปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่การปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ในอนาคต
นายประยูร อินสกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับทุกหน่วยงาน ภายใต้แผนการดำเนินงานด้านเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ด้านการเกษตร สำหรับมาตรการทดแทนปูนเม็ดนี้ ได้มอบกรมชลประทานเป็นหน่วยงานหลักร่วมดำเนินการ และได้เริ่มปรับเปลี่ยนมาใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกในงานก่อสร้างประเภทต่างๆแล้ว จนสามารถมีส่วนร่วมทำให้บรรลุเป้าหมายแรก 300,000 ตัน CO2 และกำลังจะก้าวไปสู่เป้าหมายใหม่ 1,000,000 CO2 จึงยินดีสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อน ‘MISSION 2023’ ให้สำเร็จตามเป้าหมาย