เจรจารัสเซีย-ยูเครนคืบหน้า (30 มีนาคม 2565)

เจรจารัสเซีย-ยูเครนคืบหน้า (30 มีนาคม 2565)

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย บวกราว 6-7 จุด ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ช่วยบรรเทาผลกระทบของเงินเฟ้อ ประกอบกับการทำ Window dressing ช่วงปิดไตรมาส

และครม.เห็นชอบกรอบงบ 4.5 หมื่นลบ.หนุน 10 มาตรการบรรเทาผลน้ำมันแพง นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กรุง อิสตันบูล ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,689.74 จุด +5.44 จุด +0.32% มูลค่าการซื้อขาย 76,796 ลบ. ต่างชาติ +3,653.15 ลบ. TFEX -10,445 สัญญา ตราสารหนี้ +1,108.74 ลบ.

 

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 338.30 จุด +0.97% ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องช่วยให้นักลงทุนคลายกังวลเงินเฟ้อ
+ รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหาร "ลงอย่างมาก" รอบกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ
+ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 19.2%YoYในเดือนม.ค. จากระดับ 18.9% ในเดือนธ.ค. โดยราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน
+ ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 107.2 ในเดือนมี.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 107.5 จากระดับ 105.7 ในเดือนก.พ
+ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแห่งซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า กลุ่มประเทศโอเปคพลัส จะไม่นำเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องในการรักษาเสถียรภาพราคาพลังงานเพื่อ "ประโยชน์ของส่วนรวม"
+ กระทรวงการคลังมีแนวโน้มที่จะเลื่อนการจัดเก็บภาษีการขายหุ้นออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่เหมาะสมที่จัดเก็บภาษีจากเดิมมีแนวคิดที่จะจัดเก็บภาษีหุ้นในเร็วๆ นี้
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 25,389 ราย ATK 25,397 ราย มีผู้เสียชีวิต 87 ราย รักษาหาย 26,084 ราย

ปัจจัยลบ 

 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.72 ดอลลาร์ +1.6% ปิดที่ 104.24 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน และความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ชะลอตัว หลังจากจีนล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
- ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (CUHK) คาดการณ์ว่าการที่จีนตัดสินใจล็อกดาวน์จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจจีนอย่างน้อย 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.1% ของ GDP
- ผู้นำสหรัฐเปิดเผยแผนงบประมาณวงเงินเกือบ 6 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2566 ถือเป็นการลงทุนด้านความมั่นคงของชาติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐในช่วงเวลาที่สหรัฐกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากรัสเซียและจีน
- ธนาคารไทยพาณิชย์ลดคาดการณ์ GDP ปี 65 เหลือ 2.7% พิษจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน หากยืดเยื้อและขยายวงกว้างเลวร้ายสุดโตแค่ 1-2% คาดเงินเฟ้อพุ่งแตะ 4.9% สูงสุดในรอบ 14 ปี

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแรงหนุนจาก Fund flow นักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง ประกอบกับความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,680-1,700 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
• จ่อปลดล็อกเข้าประเทศทุกเงื่อนไข 1 มิ.ย.นี้ เลิก ThailandPass/Test&Go : AOT ERW CENTEL MINT AWC
• นโยบายส่งเสริมรถ EV : EA NEX GPSC BCPG

 

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                           TIDLOR (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 45.50 บาท)
                           Bloomberg Consensus คาดกำไร 1Q65 +10%YoY +9%QoQ

•TIDLOR เดินหน้าขยายพอร์ต "บัตรติดล้อ" คาดปีนี้ลูกค้าใช้บัตรกดเงินสดไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ขณะที่ ปัจจุบันมีฐานลูกค้าบัตรติดล้อแล้วกว่า 300,000 ใบ แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1Q65 ทั้งสินเชื่อทะเบียนรถและนายหน้าประกันภัยยังเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง Bloomberg Consensus คาด 1Q65 มีกำไร 863 ล้านบาท +10%YoY +9%QoQ และคาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 3,908.78 ล้านบาท +23%YoY

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่องทั้งรายได้ค่านายหน้าจากการรับประกันและการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มเติบโตดี และยังมีโอกาสเติบโตแบบ inorganic ในอนาคตจากการที่ บริษัทจัดตั้ง Investment Committee เพื่อพิจารณาการลงทุนในลักษณะ M&A ในธุรกิจที่เกี่ ยวเนื่องกันซึ่งเป็น upside จากผลการดำเนินงานปกติ แนะนำ ซื้อ

 

หุ้นมีข่าว

(+) EA (Bloomberg Consensus 92.00 บาท) เดินเกมต่อยอดอีวี ผนึก JR-กฟน. ปั้นสถานีชาร์จอีวีอัจฉริยะพร้อมหาลู่ทางธุรกิจ รับสัดส่วนรายได้อีวีปีนี้จะมากกว่า 30% เดินหน้าส่งมอบรถบัสไฟฟ้าอื้อ ปีนี้เดินหน้าขยายโรงงานแบตเป็น 4GW ลงทุนอีก 6 พันล้านบาท แย้มมีเจรจาค่ายรถยนต์ เพื่อ ซัพพลายแบตเตอรี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JR (Bloomberg Consensus 10.00 บาท) คว้างานระบบและติดตั้งหัวชาร์จอีวีเร็ว มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท หนุนแบ็กล็อกพุ่ง จากเดิม 4.6 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ยาวถึงปี 2568 แถมลุยประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู ล็อตใหม่ อีกกว่า 6 พันล้านบาท เสริมรายรับในอนาคต บอสใหญ่ "จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ" ลั่นปี 2565 รายได้ทะลุเป้า 20% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CHAYO (Bloomberg Consensus 16.16 บาท) เตรียมรับทรัพย์ขายที่ดินราว 900.80 ล้านบาท เดินหน้าเร่งซื้อหนี้เติมพอร์ตเพิ่ม หลังสถาบันการเงินออก TOR มาแล้วกว่า 7-8 หมื่นล้านบาท โชว์ฟอร์มโค้งแรก ปี 2565 คว้าหนี้ใหม่ได้แล้วกว่า 1 พันล้านบาท คาดไตรมาส 2/2565 จะเห็นความชัดเจนเพิ่มเติม ด้านธุรกิจปล่อยสินเชื่อยังทำได้ตามเป้าไตรมาสแรกมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ราว 200 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JWD (Bloomberg Consensus 24.00 บาท) ผนึกกำลัง a2network บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ร่วมมือขยายบริการจัดเก็บสิ่งของแบบ On-Demand ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน CloudRoom และเว็บไซต์ jwd.cloudroom.me รองรับลูกค้า  คาดกลางปีหน้ามีผู้ใช้บริการ 2,000 กล่องต่อเดือน และมีจำนวนของที่จัดเก็บสะสมไม่ต่ำกว่า 100,000 กล่อง ภายใน 5 ปี (ที่มา ทันหุ้น)