“การบินไทย” 1 ปีเทขายต่อเนื่อง สำนักงาน – เครื่องบิน ยันเก้าอี้โดยสาร
"การบินไทย" เดินหน้าเพิ่มกระแสเงินสด 1 ปี ลุยขายสินทรัพย์สำนักงาน เครื่องบิน พร้อมผันตัวรุกช่องทางออนไลน์ ล่าสุดไลฟ์ขายเก้าอี้โดยสาร สร้างปรากฎการณ์หมดภายใน 30 วินาที
ระยะเวลาเกือบ 1 ปี สำหรับการดำเนินงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้ทีมผู้บริหารแผนที่นำโดยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายพรชัย ฐีระเวช นายไกรสร บารมีอวยชัย นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ซึ่งการขับเคลื่อนในช่วงดังกล่าวการบินไทยดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกำหนด ไม่ว่าจะเป็นการชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่บริษัทชำระเงินต้นและดอกเบี้ยค้างรวมเป็นเงินกว่า 1.4 พันล้านบาท และไม่ได้มีการผิดนัดตามแผนดำหนดแต่อย่างใด
นอกจากนี้อีกหนึ่งกลยุทธ์บริหารกระแสเงินสดที่การบินไทยดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ไฮไลต์สำคัญคือการพิจารณาสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กรด้วยการแปลงสินทรัพย์ส่วนนี้ให้เป็นกระแสเงินสด โดยในช่วงที่ผ่านมาการบินไทได้ยื่นขออนุญาตจากศาลและจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 4 รายการ ได้แก่
1.หุ้นที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (“BAFS”)
ดำเนินการขายและได้รับชำระเงินจากผู้ซื้อเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2564 เป็นจำนวนเงินราว 2.7 พันล้านบาท
2.หุ้นที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) (“NOK”)
ดำเนินการขายเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 โดยทยอยขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คิดเป็นจำนวนเงินราว 278 ล้านบาท
3.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นอาคารศูนย์ฝึกอบรมที่หลักสี่
ดำเนินการขายและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เมื่อวันที่ 5 ส.ค.256 โดยได้รับมูลค่าราคาเสนอซื้อสุดท้ายเป็นจำนวนเงินราว 1.8 พันล้านบาท
4.เครื่องยนต์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ประเภท CFM56-3C1 ติดตั้งกับเครื่องบิน 8737-400 จำนวน 5 เครื่องยนต์
ดำเนินการขายและส่งมอบเครื่องยนต์ให้แก่ผู้ซื้อเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2564 ได้รับเงินค่าขายเครื่องยนต์ครบถ้วนแล้ว จำนวน 265,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ในช่วงปีที่ผ่านมา การบินไทยยังดำเนินการขาย ให้เช่า หรือหาประโยชน์จากทรัพย์สินอื่นๆ ประกอบด้วย
1.ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานรักคุณเท่าฟ้า
การบินไทยได้โอนกรรมสิทธิ์และรับเงินค่าขายทรัพย์สินครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2565 ในราคา550,210,000 บาท
2.ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานอุดรธานี
การบินไทยได้โอนกรรมสิทธิ์และรับเงินค่าขายทรัพย์สินครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 ในราคา 28,600,000 บาท
3.ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานขอนแก่น
การบินไทยได้โอนกรรมสิทธิ์และรับเงินค่าขายทรัพย์สินครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 ในราคา 11,100,000 บาท
4.ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานสีลม
การบินไทยได้ลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565 ในราคา205,100,000 บาท และได้รับเงินมัดจำแล้วจำนวน 20,510,000 บาท โดยเงินส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะชำระก่อนหรือภายในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและไม่เกินวันที่ 30 มิ.ย. 2565
5.ขายหุ้น BAFS (ในส่วนที่นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตจากศาลเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2563)
บริษัทฯ ได้ขายหุ้น BAFS ใน ตลท.ระหว่างวันที่ 16 พ.ย.2564 – 15 ก.พ.2565 รวมจำนวน 1,696,000 หุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 28.20 บาท คิดเป็นรายรับรวม (สุทธิ) 47,821,274.42 บาท
6.ขายเครื่องยนต์อะไหล่ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
คณะผู้บริหารแผนมีมติอนุมัติให้ขายเครื่องยนต์อะไหล่ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วจำนวน 5 เครื่องให้แก่ผู้ยื่นชองเสนอราคาซื้อสูงสุด ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินและมูลค่าตามบัญชีสุทธิของเครื่องยนต์ ราคาขายรวม16,384,000 ดอลลาร์ โดยการบินไทยได้ส่งมอบเครื่องยนต์ให้แก่ผู้ซื้อและได้รับเงินค่าขายเครื่องยนต์ครบถ้วนแล้ว
ท้ายนี้นอกจากการขายสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงเพื่อเพิ่มกระแสเงินสดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง การบินไทยยังคงทำการขายเชิงรุกผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ “TG Warehouse Sale” ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาขายสินค้าหลากหลายประเภท ภายใต้คคอนเซ็ปต์ “ไม้จิ้มฟัน ยันเรือบิน” ปล่อยสินค้าคอลเลคชันที่มีเฉพาะการบินไทยเท่านั้น อย่างกระเป๋าที่ผลิตจากเสื้อชูชีพ และแพยาง ตลอดจนสินค้าของใช้บนเครื่องบิน จาน ชาม ช้อนส้อม และล่าสุดสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการแม่ค้าออนไลน์ ปิดการขายเก้าอี้โดยสาร 30 คู่ ภายใน 30 วินาที กวาดรายได้ไปกว่า 1 ล้านบาท