Tesla เตรียมแตกพาร์หุ้น อีกหนึ่งปัจจัยหนุนที่รออยู่ในปี 2022
บริษัท Tesla ยังคงสร้างสีสันการลงทุนให้กับนักลงทุน ล่าสุดวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้ประกาศเตรียม Stock Split (แตกพาร์) เป็นครั้งที่ 2 ในรอบสองปี และถือว่าเป็นบริษัทขนาดใหญ่แห่งที่ 3 ในปี 2022 ที่ประกาศแตกพาร์หุ้นหลัง Alphabet และ Amazon ที่พึ่งประกาศแตกพาร์ไปก่อนหน้านี้ในอัตราส่วน 20 ต่อ 1
ย้อนกลับไปการประกาศ Stock Split ครั้งแรกในวันที่ 8 สิงหาคม 2020 ด้วยอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ราคาหุ้นของบริษัทยังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องสอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่น โดยราคาหุ้น Tesla ได้ทำจุดสูงสุดในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2021 และได้ปรับฐานราคาลงมาจนถึงปัจจุบัน โดยราคาปรับตัวขึ้นไปสูงถึงระดับ $1300 ต่อหุ้นหลังนักลงทุนเข้าซื้อหุ้น Tesla คิดเป็นมูลค่าถึง $39.5 million มากกว่ามูลค่าการเข้าซื้อวันก่อนหน้าถึง 11 เท่า และหากดูในช่วงระยะเวลา 14 วันของการแตกพาร์ สิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2020 นักลงทุนเข้าลงทุนในหุ้น Tesla คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น $1.3 billion
การแตกพาร์หุ้นไม่ได้เปลี่ยนมูลค่าของบริษัทหรือเปลี่ยนแปลงมูลค่าการลงทุนของผู้ถือหุ้น แต่นักลงทุนมักมองว่าการประกาศแตกพาร์หุ้น ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความมั่นใจของผู้บริหารของบริษัท สะท้อนจากราคาหุ้นของบริษัททั้ง 3 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงหลังบริษัทออกมาประกาศแตกพาร์หุ้น ราคาหุ้น Tesla ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 8% สู่ระดับ $1091.84 ในวันจันทร์ หลังบริษัทประกาศแตกพาร์หุ้นเช่นเดียวกับ Alphabet และ Amazon ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.4% และ 5.4% ตามลำดับ หลังการประกาศเช่นเดียวกัน
หนึ่งในสาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงและนักลงทุนให้ความสนใจเข้าลงทุนมาก มาจากความมั่นใจของนักลงทุนต่อบริษัท นักวิเคราะห์กล่าวว่า การแตกพาร์หุ้นจะไม่เกิดขึ้น หากบริษัทไม่ได้ประสบความสำเร็จหรือมีความมั่นใจว่าราคาหุ้นของบริษัทมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้น นักวิเคราะห์ยังมองว่านักลงทุนมักชอบความคิดที่ว่าการซื้อหุ้นบริษัทหนึ่งและในระยะเวลาข้างหน้าจะถือครองหุ้นนั่นๆ ในจำนวนที่มากกว่าที่ซื้อในตอนแรก 5 เท่า 10 เท่า หรือแม้แต่ 20 เท่า
การปรับตัวของราคาหุ้น Tesla หลังแตกพาร์หุ้นครั้งแรกในปี 2020
ที่มา: Tradingview, Data as of 1 April 2022
นอกจากประกาศแตกพาร์หุ้น ปี 2022 Tesla มีอะไรน่าสนใจ ?
ในปี 2022 หุ้นกลุ่ม Technology และหุ้นบริษัทที่มีรายได้เติบโตสูง (Growth stock) ถูกกดดันจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทมีความผันผวน ต่างจากปีที่ผ่านมา ดังนั้น ข่าวการแตกพาร์หุ้นของบริษัทอาจไม่ได้สร้าง Sentiment บวกให้กับนักลงทุนมากนัก อย่างไรก็ดี ในแง่ของผลดำเนินงานในปี 2022 เชื่อว่า Tesla ยังมีหลายประเด็นน่าติดตามดังนี้
- การเปิดโรงงานใหม่วันที่ 22 มีนาคม มีชื่อว่า "Giga Berlin-Brandenburg" ตั้งอยู่ที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ถือเป็นโรงงานแห่งแรกในยุโรปของ Tesla และถือว่าเป็นโรงงานแห่งที่ 4 (3 แห่งแรกอยู่ที่ Nevada, New York และ Shanghai) Tesla คาดว่าโรงงานแห่งนี้จะมีกำลังการผลิต 500,000 คันต่อปี และผลิตแบตเตอรี่ได้ 50 GWh
- โรงงาน Gigafactory แห่งที่ 5 กำลังก่อสร้างที่ Texas และจะเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทด้วย
- นักวิเคราะห์คาด ปี 2022 Tesla จะสามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้เกินกว่า 1 ล้านคันเป็นปีแรก คาดรายได้ตลอดทั้งปี 2022 ของ Tesla ขยายตัว +53.29% YoY ขยายตัวสู่ระดับ $82.5 billion จากระดับ $53.82 billion ในปี 2021
- Tesla เตรียมติดตั้ง Supercharger เทคโนโลยีชาร์จไฟฟ้าที่รวดเร็วสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกยี่ห้อในประเทศอังกฤษ นอร์เวย์ และฝรั่งเศส โดย Tesla ได้มีการดำเนินโครงการแบบนำร่องด้วยการติดตั้งสถานี Supercharger ในประเทศเนเธอร์แลนด์จำนวน 10 แห่ง โดยหากผู้ใช้บริการไม่ได้ใช้รถของบริษัท Tesla สามารถใช้ Application ของ Tesla ในการชาร์จได้
คาดการณ์ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า Tesla (คัน)
การส่งสัญญาณแตกพาร์หุ้นของ Tesla สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริหารและทิศทางของผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัท นอกจากนั้น ในปี 2022 ยังเป็นปีที่ Tesla มีประเด็นบวกที่ต้องติดตาม ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้กับราคาหุ้นของบริษัทได้ในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ตาม Tesla ยังมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น หรือการแพร่ระบาดที่อาจส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตได้
ที่มาจาก: The Wall Street Journal, Yahoo Finance
ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ tiscoasset หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds