“พลังงาน” เปิดยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบ 24
กระทรวงพลังงาน ลงนามประกาศเชิญชวนการเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 24 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศจากเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม คาดเม็ดเงินลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท หากสำรวจพบปิโตรเลียม
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลงนามในประกาศเชิญชวนการเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 24 บริเวณทะเลอ่าวไทย จำนวน 3 แปลง ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า คาดว่าจะสามารถประกาศผลผู้ได้รับสิทธิได้ภายในปี 65 และจะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศทั้งในด้านการจ้างงานภายในประเทศ สร้างรายได้เข้ารัฐ และเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นกว่า 1,500 ล้านบาท หากสำรวจพบปิโตรเลียม
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการส่งเสริม สนับสนุน และเร่งรัดการจัดหาพลังงาน โดยการส่งเสริมและเร่งรัดการสำรวจและพัฒนาแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติในประเทศ ได้ดำเนินการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 24 บริเวณทะเลอ่าวไทย ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต จำนวน 3 แปลง ประกอบด้วย แปลง G1/65 G2/65 และ G3/65 บริเวณทะเลอ่าวไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับแนวท่อก๊าซที่มีอยู่เดิม และอยู่ใกล้กับพื้นที่ผลิตหลัก ที่ปัจจุบันมีการผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมต่อไปได้
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการเปิดให้ยื่นขอสิทธิ ดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานสากล ที่โปร่งใส ซึ่งภายหลังจากการลงนามประกาศเชิญชวน ในวันนี้ (8 เมษายน 2565) แล้ว จะประชาสัมพันธ์ให้บริษัทผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียมที่สนใจเข้าร่วมการประมูล และมีการเผยแพร่ประกาศเชิญชวนผ่านทางเว็บไซต์กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยบริษัทที่สนใจสามารถดาวน์โหลดประกาศเชิญชวน และเงื่อนไขต่างๆ ได้จากทั่วโลก พร้อมทั้งเปิดห้อง Data room ให้บริษัทต่างๆ เข้าศึกษาข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอการยื่นของสิทธิ ต่อกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่อพิจารณาคัดเลือก และนำเสนอผลการคัดเลือกต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ หาก ครม.อนุมัติ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะประกาศผลผู้ชนะ และได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตต่อไป
“การเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงพลังงาน โดยคาดว่า จะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในเบื้องต้นกว่า 1,500 ล้านบาท และจะต่อยอดให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นล้านบาท หากมีการสำรวจพบปิโตรเลียม นอกจากนั้น ยังสามารถสร้างผลประโยชน์ให้รัฐในรูปค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และส่วนแบ่งกำไร ตลอดจนก่อให้เกิดการจ้างงานพนักงานคนไทย เรียกได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศอีกครั้ง หลังจากที่การเปิดให้สิทธิสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมในประเทศหยุดชะงักมาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว”
สำหรับประโยชน์ที่ตามมานั้นไม่ใช่แค่ความมั่นคงด้านพลังงาน แต่หมายถึงความเชื่อมั่นของภาคการลงทุน การสร้างรายได้ให้กับประเทศ สร้างงานสร้างอาชีพที่มั่นคงให้คนไทย รวมถึงการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตให้กับธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ อีกจำนวนมาก อาทิ ธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างแท่นผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รวมถึงภาคขนส่งอีกด้วย นอกเหนือจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ประโยชน์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งจากการเปิดให้ยื่นขอสิทธิ ในครั้งนี้ ประเทศจะมีทรัพยากรปิโตรเลียมเพื่อลดการนำเข้า สร้างความมั่นคงด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ดำเนินการยื่นขอสิทธิ ในครั้งนี้ ตามขั้นตอนต่างๆ อย่างเปิดเผย และโปร่งใส โดยยึดมั่นในผลประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก เพื่อเป็นการนำทรัพยากรของประเทศ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คนไทยได้มีปิโตรเลียมจากแหล่งพลังงานในประเทศใช้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศอย่างยั่งยืน
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์