โบรกชี้ เพดานดบ.ลิสซิ่ง ชัดเจนปีนี้ หุ้นรับผลบวก
“แบงก์ชาติ” เปิดรับฟังร่างฯ คุมธุรกิจลีสซิ่งไม่ให้ดอกเบี้ยสูงเกินไป “บล.หยวนต้า” ชี้ดบ.เช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่หากต่ำกว่า 26% กดดัน “ศรีสวัสดิ์” มากที่สุด แต่เชื่อ ธปท.รับรู้ต้นทุนไม่กำหนดต่ำจนธุรกิจไม่รอด หากเคาะเพดานดบ.ชัดเจนเป็นสัญญาณเชิงบวกหุ้นไฟแนนซ์
นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การเปิดรับฟังความเห็นร่างพ.ร.ฎ. กำกับดูแล ธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่ง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ถือเป็นหนึ่งความร่วมมือที่ธปท.ร่วมกับกระทรวงการคลัง ภาครัฐผ่านโครงการแก้หนี้ประชาชน
เนื่องจากธุรกิจเช่าซื้อปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานกำกับไม่เหมือนธุรกิจที่อยู่ภายใต้ธนาคารพาณิชย์ อีกทั้งสินเชื่อยังมีอัตราการขยายตัวสูงมาก เฉลี่ยปีละ 5.5% และส่วนหนึ่งมีการคิดดอกเบี้ยสูงและเริ่มมีการร้องเรียนที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
ดังนั้น ในส่วน ธปท. จะเข้ามาดูแลหลักๆ คือในส่วนการคุ้มครองผู้บริโภค ดูแลเรื่องข้อร้องเรียนต่างๆ และในส่วนนโยบายที่ใช้เพื่อดูแลและป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ (systemic risk) ที่เกี่ยวกับ macroprudential
ส่วนการกำกับเร่งดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม วันนี้ทุกฝ่ายมีการหารือร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อยู่ ดังนั้นการเข้ามาดูแลของแบงก์ชาติจะหลังจากที่ออกพ.ร.ฎ.เรียบร้อยแล้ว โดยการกำกับดูแลจะให้ธุรกิจเข้ามาจดทะเบียนประกอบธุรกิจที่ธปท.
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ธปท. ได้ประชุมร่วมกับคณะทำงานของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และมีการเปิดรับฟังความเห็นหลายรอบแล้ว ที่ผ่านมาในการเสนออัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ 15% และรถยนต์ใช้แล้ว 20% นั้น ไม่มีปัญหาแล้ว
ส่วนของอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ 26% ประเด็นนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ หากอัตราดอกเบี้ยส่วนนี้ต่ำกว่า 26% จะส่งผลกดดันต่อผลประกอบการของธุรกิจเช่าซื้อ โดยเฉพาะ SAWAD มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า ธปท. รับรู้ต้นทุนและความเสี่ยงสูงของการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวอยู่แล้ว ทำให้อัตราเพดานดอกเบี้ยที่ออกมาจะไม่ต่ำเกินไปจนผู้ประกอบการไม่สามารถทำธุรกิจได้
ขณะเดียวกัน ยังมองเป็นกลางต่อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ สะท้อนราคาหุ้นลีสซิ่งรายใหญ่ อย่าง SAWAD กับ MTC ไม่ได้เคลื่อนไหวขึ้นหรือลงแรงจากประเด็นดังกล่าว เพราะตลาดรับข่าวประเด็นนี้หลายรอบแล้ว และผู้ประกอบการ มีระยะเวลาปรับตัวมาระดับหนึ่งแล้ว และเชื่อว่า จะมีแผนรองรับได้มองหากเพดานดอกเบี้ยธุรกิจเช่าซื้อมีความชัดเจน สุดท้ายราคาหุ้นตอบรับในเชิงบวกมากกว่า
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยนต์ใหม่ที่นำเสนอในการเปิดรับความเห็นครั้งนี้ ออกมาที่อัตรา 25-26% หรือต่ำลงมาแต่ไม่มาก มองว่า ผู้ประกอบการอาจจะกำหนดวงเงินดาวน์เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยง มีโอกาสเห็นยอดการปล่อยสินเชื่อส่วนนี้ชะลอตัวลง และยิ่งอัตราดอกเบี้ยใกล้ระดับ 20% มากขึ้น น่าจะเห็นการปล่อยสินเชื่อส่วนนี้ชะลอตัวลงไปมาก ขณะที่มองระดับดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 30% บวกลบ
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาประเด็นดังกล่าวกดดันราคาหุ้นกลุ่มนี้ไปมากแล้ว และตลาดตอบรับที่ระดับดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 25-26% ไปแล้ว ดังนั้น ประเมินหากอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้ระดับ 30% ราคาหุ้นน่าจะตอบรับเชิงบวก ถ้าอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้ระดับ 20% ราคาหุ้นน่าจะตอบรับเชิงลบ
นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล. กสิกรไทย กล่าวว่า ธปท. จะเข้ามาควบคุมกำกับด้านการปฎิบัติงานและการเปิดเผยข้อมูลต่อลูกค้ามากขึ้น ผลกระทบกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดไม่น่าสูงนัก เพราะกลุ่มนี้เป็นรายใหญ่ที่ถูกกำกับโดย ธปท. มาบ้างแล้วบนสินเชื่อชนิดอื่นๆ ดังนั้นเรื่องระบบ การทำสัญญากับลูกค้าน่าจะถูกต้องอยู่แล้ว
แต่คาดว่า ผลกระทบน่าจะอยู่กับลีสซิ่งท้องถิ่นมากกว่าที่ต้องทำระบบเพิ่ม ปรับแก้ข้อกำหนดต่างๆเพิ่ม และอาจเสียเปรียบรายใหญ่ เพราะต้องปรับตัว
ส่วนเรื่องการคุมเพดานดอกเบี้ย มองว่า อัตราดอกเบี้ยน่าจะเหมาะสมขึ้น เพราะ ธปท. มีความรู้ความชำนาญในด้านธุรกิจสินเชื่ออยู่แล้ว แต่เรื่องเพดานดอกเบี้ยคงควบคุมหลังจากที่กำกับ market conduct เรียบร้อยแล้ว
แนะนำ หลีกเลี่ยงหุ้นไฟแนนซ์ ที่มีโอกาสได้รับผลกระทบไปก่อน เช่น MTC SAWAD NCAP เพราะมีธุรกิจเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์อยู่ แนะนำ ซื้อ TIDLOR เพราะสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นจำนำทะเบียน ไม่มีความเสี่ยงเรื่องโดนปรับแก้ดังกล่าวแล้ว