พาณิชย์ดึงเอกชน 9 รายซื้อลองกอง 7,500 ตัน
“จุรินทร์ ออนทัวร์เมืองชาละวัน” ดันส่งออกส้มโอพิจิตร เดินหน้า “อมก๋อยโมเดล” ระบายลองกองเหนือ ดึงผู้ค้ารายใหญ่ทำสัญญาซื้อล่วงหน้า กับชาวสวนกว่า 1,200 ราย ร่วม 7,500 ตัน หนุนราคาดีตลอดฤดูกาล
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามสัญญาข้อตกลงการซื้ อขาย "ลองกอง" จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ว่า
วันนี้ตั้งใจมาช่วยสนับสนุนผลไม้ 2 ตัวสำคัญ คือ 1.ลองกองและ2.ส้มโอ ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพิจิตร
ซึ่งลองกองถือเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญตัวหนึ่งของภาคเหนือและภาคใต้บ้านตนด้วย ลองกองดังที่สุดคือจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดสุโขทัย โดยลองกองจะออกมากเดือน ส.ค.-ต.ค.โดยประมาณ จังหวัดและกระทรวงฯมีหน้าที่เข้ามาดูแลตั้งแต่ต้นฤดู จึงมาแก้ปัญหาล่วงหน้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งมีโมเดลในการดูแลพี่น้องประชาชนผู้ทำการเกษตร ชื่อว่า "อมก๋อยโมเดล" คือ เกษตรพันธสัญญา ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเป็นหลักประกันให้กับพ่อค้า ผู้รับซื้อ ผู้ส่งออกและเป็นหลักประกันให้เกษตรกร เซ็นสัญญาเตรียมส่งออกและกระจายไปตลาดทั่วประเทศล่วงหน้า และเกษตรกรจะมีหลักประกันว่าอย่างน้อยจะขายได้ราคาตามที่กำหนด เป็นสัญญามาตรฐานที่กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ พัฒนาจากพระราชบัญญัติเกษตรพันธสัญญา ถ้าราคาสูงกว่าที่ทำสัญญาให้ซื้อตามราคาตลาดแต่ต้องไม่ต่ำกว่าราคาที่ทำสัญญา เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้และพ่อค้ามีสินค้าแน่นอน
วันนี้มีเกษตรกร 15 กลุ่มจากจังหวัดสุโขทัยและอุตรดิตถ์จำนวน 1,200 ราย มีผู้ซื้อ 9 ราย ผู้ประกอบการ 5 ห้างและผู้ประกอบการล้ง 4 ราย ประกอบด้วย
- บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด
- บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด
- บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด
- บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์
- 5. บจก.เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม (โลตัส)
และผู้ประกอบการจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย
- บริษัท มาตา เทรดดิ้ง จำกัด
- บริษัท เอ็มที ฟรุ๊ตแลนด์ จำกัด
- บริษัท ล่ำซำ เฟรช ฟรุ๊ต จำกัด
- 4.บริษัท วินเทคซาวด์ จำกัด
มาร่วมลงนาม MOU วันนี้ทั้งหมด 7,500 ตันจากผลผลิตภาคเหนือทั้งหมด 21,000 ตัน คิดเป็น 35% ของผลผลิตทั้งปี จะช่วยดึงราคา เป็นการชี้นำราคา
โดยราคากำหนดว่าเกรดส่งออกต้องไม่ต่ำกว่า 20-80 บาทต่อกก. แล้วแต่กรณี ซึ่งปีที่แล้วราคา 13-18 บาทต่อกก. ซึ่งดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน ส่วนเกรดคละรับซื้อไม่ต่ำกว่า 15-50 บาทต่อกก. ซึ่งราคาปีที่แล้ว 9-14 บาทต่อกก.และจะมีการมอบกล่องไปรษณีย์ให้กับจังหวัดอุตรดิตถ์ 5,000 กล่องและจังหวัดสุโขทัย 5,000 กล่อง เพื่อให้เกษตรกรนอกจากขายผ่านเกษตรพันธสัญญาแล้ว ขายผ่านระบบออนไลน์ด้วย ขายตรงระหว่างเกษตรกรให้ผู้บริโภคต้องส่งไปรษณีย์กระทรวงพาณิชย์บริการกล่องฟรี ลดต้นทุนให้กับเกษตรกร กำไรก็จะตกกับเกษตรกรได้เต็มที่ ซึ่งไปรษณีย์ไทยให้ความร่วมมือดีมาโดยตลอด
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส้มโอที่ปลูกเยอะและมีคุณภาพมากที่สุดที่หนึ่งคือที่ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ผลผลิตเฉพาะจังหวัดพิจิตร ปีละ 48,000 ตัน เฉพาะที่ อ.โพธิ์ประทับช้างที่เดียว ถึง 37,000 ตัน สามารถส่งออกไปได้หลายประเทศ ปีที่แล้วส่งออกได้ 30,000 ตัน นำเงินเข้าประเทศกว่า 1,061 ล้านบาท ตลาดใหญ่สุดคือ
- ตลาดจีน 81%
- ฮ่องกง 13.5%
- เวียดนาม 2.6%
- ลาว 0.4%
- สิงคโปร์ 0.2%
และปีนี้เฉพาะ 6 เดือนแรก ม.ค.-มิ.ย. ส่งออกไปแล้ว 16,500 ตัน คิดเป็นเงิน 563 ล้านบาท +1.15% และปีนี้มีข่าวดีเราสามารถส่งออกไปญี่ปุ่นได้เป็นครั้งแรกแล้ว ขอแสดงความยินดีกับเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอด้วย
ทั้งนี้สัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายใน ในการซื้อขาย “ลองกอง” จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ปริมาณรวม 7,500 ตันซึ่งผู้ลงนามสัญญาประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกร 15 กลุ่ม เป็นจังหวัดอุตรดิตถ์ 13 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกร ต.นานกกก อ.ลับแล จำนวน 9 กลุ่ม กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน ต.ฝายหลวง อ.ลับแล กลุ่มชาวสวนผลไม้แม่พูล อ.ลับแล กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน อ.เมืองอุตรดิตถ์ และกลุ่มเกษตรกรทำสวนบ้านด่านนาขาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ และจังหวัดสุโขทัย จำนวน 2 กลุ่ม ประกอบด้วยวิสาหกิจชุมชนแปรรูปห้วยตม อ.ศรีสัชนาลัย และวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกผลไม้บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย