ลงทะเบียนบัตรคนจนทั่วไทยวันแรก ‘คึกคัก’

ลงทะเบียนบัตรคนจนทั่วไทยวันแรก ‘คึกคัก’

ในวันนี้เป็นการเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เป็นวันแรก ปรากฎว่ามีประชาชนเดินทางมาลงทะเบียนเพื่อรับบัตรเป็นจำนวนมาก

ที่ศาลากลาง จ.ตรัง ในวันนี้เป็นการเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เป็นวันแรก ปรากฎว่ามีประชาชนเดินทางมาลงทะเบียนบัตรคนจนเพื่อรับบัตรเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางจังหวัดได้จัดกิจกรรม “ClicK Off” โครงการลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 จังหวัดตรังขึ้น ในวันนี้ (5 กย.) เพื่อประชาสัมพันธ์ สร้างความรับรู้ให้กับประชาชนได้รับทราบ ความพร้อมของจังหวัดตรัง ในการรับลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ปี 2565 ระหว่างวันที่ 5 กันยายน ถึง วันที่ 19 ตุลาคม 2565 นี้ ซึ่งบรรยากาศวันแรกกว่านี้พบว่ามีประชาชนบางส่วนเดินทางมาถึงศาลากลางจังหวัดตรังตั้งแต่ 7 โมงเช้าเพื่อรอลงทะเบียน ทั้งนี้ในส่วนของการลงทะเบียนนั้นได้แบ่งการลงทะเบียนออกเป็นหลายส่วนทั้งที่สำนักงานสำนักงาน ที่ว่าการอำเภอ รวมทั้งธนาคารกรุงไทยธนาคารออมสิน และธนาคาร ธกส. ทั้งนี้ในส่วนของธนาคาร ธกส. ได้อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนโดยการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปประจำตามอบตต่อต่างๆเพื่อรับลงทะเบียนประชาชนเป็นการอำนวยความสะดวก ทางด้านประชาชนที่เดินทางมาลงทะเบียน บัตรคนจน 65 บอกว่าจะนำไปซื้อข้าวสารซื้อน้ำมันผงซักฟอกหรือของใช้ที่จำเป็นในครอบครัว ส่วนความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่อยากจะได้จากภาครัฐคืออยากจะได้ที่อยู่อาศัยอยากได้ร้านสำหรับการค้าขายและอยากได้เงินทุนเพราะบางคนตกงานมาตั้งแต่สถานการณ์โควิดจนถึงขณะนี้ยังไม่มีงานทำ

พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่มี โครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ทำให้สามารถประหยัดรายจ่ายได้ส่วนนึง อย่างไรก็ตาม ทางด้านนางอัจจิมา โอฬารฤทธิรงค์ หน.กลุ่มนโยบายและเศรษฐกิจ สำนักงานคลังจังกวัดตรัง กล่าวว่า ข้อมูลเดิมมีผู้ลงทะเบียนรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 130,000 คนแต่ในครั้งนี้เชื่อว่ามีประชาชนสนใจเพิ่มมากขึ้นไม่ต่ำกว่า 150,000 คนโดยส่วนหนึ่งเกิดจากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีตามหลักเกณฑ์เพิ่มขึ้น ส่วนร้านค้าที่ร่วมรายการมีประมาณกว่า 10,000 ร้าน

ที่ศาลากลางจังหวัดสตูล วันแรกของการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ชาวบ้านทยอยเดินทางมาลงทะเบียนพร้อมขอรับเอกสารและขอคำปรึกษาทันทีที่ทางราชการเปิดรับลงทะเบียน โดยพบว่าผู้สูงวัยเดินทางมาเพียงลำพังในการมาต่ออายุบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกันมากตั้งแต่ช่วงเช้า

ทำให้ทางคลังจังหวัดสตูลต้องเพิ่มกำลังคนในการดูแลกรอกแบบสอบถาม โดยเตรียมแผนในการรองรับการเข้ามาของชาวบ้านที่สูงสุดครั้งละ 70 คน และหากในช่วงสายของวันนี้มีชาวบ้านมาจำนวนมากขึ้น ได้เตรียมแผนสำรองในการให้บริการเพื่อไม่ให้แออัดและติดขัด

นางสาวกีรติญา ทิมเมือง คลังจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า ทางจังหวัดสตูลได้เตรียมแผนในการรองรับการเดินทางมา สมัครบัตรสวัดิการแห่งรัฐ ทั้งรายเก่าและรายใหม่ จำนวน 21 จุดทั่วทั้งจังหวัด โดยแต่ละอำเภอก็จะมีแผนย่อยในการเคลื่อนที่ลงให้บริการตามชุมชน หมู่บ้าน เพื่อลดการแออัดด้วย

สำหรับพื้นที่เกาะแก่งห่างไกล อย่างเกาะหลีเป๊ะ เกาะสาหร่าย ก็มีแผนรองรับในการให้บริการเพื่อบริการประชาชนด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีการบูรณการกันทั้ง อำเภอ ธกส.ออมสิน คลังจังหวัด สำหรับคนโสดสามารถลงทะเบียนผ่านออนไลน์ได้เลย ซึ่งขณะนี้ระบบและกระบวนการต่างๆ ยังไม่พบปัญหาแต่อย่างใดในวันนี้

จังหวัดสตูล มีประชาชนที่ลงทะเบียนในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในครั้งที่แล้วจำนวน 88,000 คน ซึ่งในครั้งนี้วันแรกทางคลังจังหวัดยังไม่สามารถจะประเมินได้ว่าจะมีคนมาสมัครมากหรือน้อยกว่า ต้องรอใกล้วันสุดท้ายของการเปิดรับลงทะเบียน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 5 ก.ย.65 บรรยากาศที่ว่าการอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากรัฐบาลเปิดให้มีการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน รอบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.ถึงวันที่ 19 ต.ค.65 โดยอำเภอทุ่งสง มีการแบ่งพื้นที่ลงทะเบียนตามภูมิลำเนาที่ผู้ลงทะเบียนมีชื่อ แยกเป็นตำบล ประกอบด้วย

  • ต.ควนกรด ต.ชะมาย และ ต.ถ้ำใหญ่ ลงทะเบียนที่ธนาคารออมสิน
  • ส่วนธนาคาร ธกส. สาขาทุ่งสง รับผิดชอบ ต.เขาขาว ต.ที่วัง และ ต.น้ำตก
  • ธนาคาร ธกส.สาขาที่วัง รับลงทะเบียน ปชช.ต.กะปาง และ ต.เขาโร
  • ต.นาหลวงเสน และ ต.นาโพธิ์ ลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทย สาขาทุ่งสง
  • ธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดเกษตร รับลงทะเบียน ปชช.ที่อาศัย ต.หนองหงส์ และ ต.นาไม้ไผ่
  • ต.ปากแพรก ลงทะเบียนที่ว่าการอำเภอทุ่งสง

อย่างไรก็ตาพบว่าช่วงเช้าวันนี้ ที่ว่าการอำเภอ มีประชาชนเดินทางมาลงทะเบียน ค่อนข้างเงียบเหงา คาดว่าประชาชน กังวลว่าวันแรกอาจมีคนมาลงทะเทียบมาก อาจการเกิดเบียดเสียดกันเสี่ยงแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ส่วนหนึ่งอาจเตรียมเอกสาร กรอกข้อมูลไม่ครบ เนื่องจากลงทะเบียนรอบใหม่ มีเอกสารให้กรอกขอมูลมากกว่ารอบแรก นอกจากนี้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ยังไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ เนื่องจากต้องรอญาตินำพาหรือมาลงทะเบียนแทน อย่างไรก็ตามเสียงสะท้อนของผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ซึ่งมีบัตรสวัสดิการอยู่แล้ว ฝากถึงรัฐบาลควรมีการเปิดรับลงทะเบียนออนไลน์ เนื่องจากผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการหลายคน ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง ซึ่งต้องรอให้ญาติว่างภารกิจ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ธนาคาร ธกส.สาขาตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้มีประชาชนเดินทางมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบริเวณธนาคาร ธกส.สาขาตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ที่เปิดรับสมัครลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน - 19 ตุลาคม 2565 เวลา 08.30 - 16.00 น. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกับชาวบ้านพร้อมแจกแบบฟอร์มให้ชาวบ้านไปกรอกข้อมูลให้ถูกต้อง ส่วนประชาชนท่านใดที่ไม่สามารถลงทะเบียนเองได้ทางธนาคารจะมีการลงทะเบียนให้กับชาวบ้านที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้

สำหรับการลงทะเบียนโครงการฯ ปี 2565 จะเป็นการลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด ทั้งผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว และผู้ที่ไม่เคยมีบัตรฯ จะต้องลงทะเบียนใหม่ทุกคน

 

ขั้นตอนการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ผ่านทางเว็บไซต์

- เมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์ ให้เลือกปุ่ม ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ

- เริ่มลงทะเบียน ด้วยการกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน และ กดปุ่ม ตรวจสอบข้อมูล จากนั้นกรอกข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชน ได้แก่ ชื่อ สกุล วันเดือนปีเกิด และเลขหลังบัตร

- เมื่อตรวจสอบข้อมูลและกดปุ่มยืนยันข้อมูล ผู้ลงทะเบียนที่โสด ให้กดยอมรับเงื่อนไขและยืนยันการลงทะเบียนได้ทันที โดยไม่ต้องไปยื่นเอกสารหรือเดินทางไปหน่วยงานรับลงทะเบียน

- ผู้ลงทะเบียนที่มีครอบครัว กรอกข้อมูลทางเว็บไซต์สำเร็จ จะต้องเลือกหน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนสะดวก เพื่อไปยื่นเอกสารที่ลงลายมือชื่อครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัว สามี ภรรยา และบุตรที่หน่วยงานรับลงทะเบียน ถึงจะถือว่าจบขั้นตอนการลงทะเบียน

- ผู้ลงทะเบียนเป็นผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ โดยจะจัดให้มีผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับลงทะเบียนตามจุดรับลงทะเบียน โดยจะต้องเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อความคุ้นเคยกับผู้ลงทะเบียนและสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก

- หลังจากลงทะเบียนแล้ว ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบสถานการลงทะเบียนได้ทุกวันศุกร์ในแต่ละสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ 16 กันยายน 2565 เป็นต้นไป หากผู้ลงทะเบียนพบว่า ข้อมูลผู้ลงทะเบียนไม่ถูกต้อง ให้ติดต่อขอแก้ไขข้อมูลได้ ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน

- หลังจากนั้นจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติว่า ใครผ่าน หรือไม่ผ่านได้ช่วงเดือนมกราคม 2566 ซึ่งการใช้สิทธิผ่านบัตรสวัสดิการรอบใหม่จะเป็นการใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น

- ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการปัจจุบันยังคงได้รับสิทธิต่อเนื่อง จนกว่าจะมีการประกาศให้เริ่มใช้สิทธิสวัสดิการสำหรับผู้ได้รับสิทธิรอบใหม่

 

 

ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่จังหวัดนครพนมเปิดให้บริการประชาชนในการรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ระหว่างวันที่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค. 2565 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเดินทางมาลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิใหม่ ทั้งที่เป็นรายเดิมและรายใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ซึ่งในจุดได้แบ่งการให้บริการออกเป็นชุดคัดกรองประชาชน เพื่อให้ทุกคนได้ดำเนินการกรอกข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ก่อนที่จะนำเอกสารที่ได้ไปยื่นลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่อีกชุดเพื่อลงระบบ

โดยตลอดระยะเวลาที่มีการลงทะเบียน ประชาชนที่เดินทางมาใหม่จะมีความสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับการแยกสถานะของตัวเอง ระหว่างคนโสดกับคนที่มีครอบครัวแล้ว เนื่องจากในการกรอกข้อมูลจะให้ระบุ สำหรับคนที่แต่งงานแล้วแต่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นคนโสด รวมถึงถ้ามีบุตรแต่อายุไม่เกิน 18 ปี ให้ภรรยาลงทะเบียนเป็นแต่งงานแล้วมีบุตร ส่วนสามีถ้าไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตรให้กรอกข้อมูลเป็นโสด และถ้าบุตรอายุเกิน 18 ปี ทุกคนจะต้องกรอกข้อมูลเป็นโสด โดยบุตรจะมีสิทธิลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิได้อีก 1 สิทธิ เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งครอบครัว ส่วนผู้ที่สามีหรือภรรยาเสียชีวิตทำให้เป็นหม้ายให้ลงทะเบียนเป็นคนโสด ซึ่งเมื่อทุกคนเข้าใจในรายละเอียดที่เจ้าหน้าที่อธิบายแล้ว การดำเนินการก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร ทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง และแล้วเสร็จด้วยเวลาอันรวดเร็ว

นางรัตนาภรณ์ อัศวนุภาพ คลังจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในการรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในครั้งนี้จังหวัดนครพนมได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด โดยแบ่งจุดให้บริการประจำหน่วย 40 จุด คือ ที่สำนักงานคลังจังหวัดนครพนม ที่ว่าการอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ธ.ก.ส. 11 สาขา ยกเว้นสาขาอำเภอวังยาง ธนาคารออมสิน 10 สาขา ยกเว้นสาขาอำเภอนาแกและอำเภอวังยาง ธนาคารกรุงไทย 6 สาขา ได้แก่ สาขาศาลากลางจังหวัดนครพนม สาขานครพนม สาขานาแก สาขาธาตุพนม สาขาเรณูนครและสาขาศรีสงคราม รวมถึงมีการออกหน่วย Mobile เคลื่อนที่รับลงทะเบียนตามจุดต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับการลงทะเบียนไปแล้วว่าคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิรับลงทะเบียนคือเป็นอย่างไร แต่ละหมู่บ้านสามารถลงทะเบียนได้ที่ไหน วันใด เพื่อให้เกิดการกระจายตัวในการลงทะเบียน ประชาชนได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดและไม่เกิดการกระจุกตัวอยู่ที่จุดเดียว เนื่องจากฐานข้อมูลเดิมของจังหวัดนครพนมมีผู้เคยได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากถึง 189,593 ราย และคาดว่าจะมีผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิแต่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดมาลงทะเบียนเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ทั้งนี้สำหรับประชาชนที่เก่งเรื่องเทคโนโลยีสามารถที่จะลงทะเบียนเองได้ที่ทางเว็บไซต์ (คลิก)  หรือ (คลิก)  และก็ขอขอบคุณทางภาคเอกชนที่แม้จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการแต่ก็มาให้กำลังใจรวมถึงนำน้ำดื่มมามอบให้เพื่อให้ประชาชนได้รับประทานแก้กระหาย

 

ที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ประชาชนทยอยเดินทางมาลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 โดยมีประชาชนในพื้นที่ตำบลเขวา ตำบลแวงน่าง และตำบลหนองปลิง อ.เมืองมหาสารคาม เดินทางมาลงทะเบียนกันตั้งแต่เช้า โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งขั้นตอนการรับบริการ และการเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนที่จะลงทะเบียน

นางสาวจารุวรรณ ตามกลาง คลังจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ทั้งรายเก่าและรายใหม่ มีประชาชนทยอยเดินทางมาตั้งแต่เช้า โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมความพร้อม และแจ้งประชาสัมพันธ์ขั้นตอนก่อนเข้ารับบริการ โดยได้มีการแบ่งตำบลในการให้บริการ เพื่อลดความแออัดให้กับพี่น้องประชาชน และเพื่อให้ได้รับบริการที่สะดวกมากยิ่งขึ้น

สำหรับจุดบริการของแต่ละตำบล มีดังนี้ เขตพื้นที่ตำบลเขวา ตำบลแวงน่าง ตำบลหนองแวง รับบริการได้ที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม พื้นที่ตำบลตลาด (เขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม) รับบริการที่ธนาคารกรุงไทย สาขามหาสารคาม เขตตำบลลาดพัฒนา รับบริการที่ธนาคารออมสิน สาขามหาสารคาม เขตพื้นที่ตำบลท่าสองคอน ตำบลหนองโน รับบริการได้ที่ธนาคารออมสิน สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ เขตพื้นที่ตำบลท่าตูม ตำบลห้วยแอ่ง ตำบลบัวค้อ รับบริการได้ที่ ธนาคาร ธกส. สาขามหาสารคาม เขตพื้นที่ตำบลโคกก่อ ตำบลดอนหว่าน รับบริการได้ที่ ธนาคาร ธกส. สาขาตักสิลา และเขตพื้นที่ตำบลแก่งเลิงจาน ตำบลเกิ้ง รับบริการได้ที่หอประชุมอำเภอเมืองมหาสารคาม

 

 ภายหลังจากที่กระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ โดยผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่ปี 2559 ทั่วประเทศ จำนวน 13.3 ล้านราย ทุกคนต้องลงทะเบียนใหม่ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ พร้อมกับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการใหม่ ในปี 2565 ซึ่งเริ่มให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค. 65 โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th และเว็บไซต์ welfare.mof.go.th หรือลงทะเบียนผ่าน 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย, สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง, ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา รวมจุดรับลงทะเบียนไม่น้อยกว่า 7,000 จุดทั่วประเทศ

เช้าวันนี้ (5 กันยายน 2565) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวันแรก ที่ธนาคารกรุงไทย สาขานครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งได้ใช้พื้นที่ใต้อาคารของสำนักงานธนาคาร เป็นจุดรับลงทะเบียน โดยบรรยากาศได้มีประชาชนเดินทางมาต่อคิวลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวันแรกกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ที่มีอายุกว่า 60 ปีขึ้นไป มารับรอรับบัตรคิวตั้งแต่ก่อนเวลา 08.30 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทย ได้จัดระเบียบด้วยการให้แยกกลุ่มที่มีครอบครัว และกลุ่มโสด ทำให้เกิดการชุลมุนอยู่สักพักใหญ่ เนื่องจากผู้สูงอายุบางคนก็มีลูก หลาน เติบโตไปมีครอบครัวใหม่แล้ว จึงถือว่าเป็นคนละครอบครัว อีกทั้งคู่ชีวิตก็เสียชีวิตไปแล้ว จึงถือว่าเป็นโสด นอกจากนี้ผู้สูงอายุหลายคนไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือมีโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่า ที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน ทำให้ไม่สามารถลงทะเบียนได้ ต้องใช้โทรศัพท์ของญาติลงทะเบียนแทน ส่วนกลุ่มเปราะบาง ที่ไม่มีญาติ ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน จะใช้โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนให้แทน จึงเกิดความล่าช้า ทำให้หลายคนต้องมายืนรอคิวอยู่นาน

สอบถามนายธารา พันธุ์เกษม อายุ 57 ปี กล่าวว่า ตนเองนั้นไม่มีญาติ พี่ น้อง อยู่ตัวคนเดียว และไม่มีงานทำ จึงไม่มีรายได้อะไร ทั้งนี้ตนเองยังไม่เคยลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเลย และไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงได้เดินทางมาลงทะเบียนในวันนี้ ซึ่งหากได้รับเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะได้นำไปใช้ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน บรรเทาความเดือดร้อนได้เป็นอย่างมาก

ด้านนายทับทิม รัตนแพร อายุ 83 ปี กล่าวว่า ตนเองเคยลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบแรกไปแล้ว และทราบว่าบัตรเดิมจะใช้ไม่ได้ในเดือนมกราคมปีหน้า จึงได้เดินทางมาลงทะเบียนใหม่ ซึ่งพบว่ามีความยากลำบากมาก เพราะจะต้องใช้โทรศัพท์รุ่นใหม่ ที่สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ เพราะตนเองมีเพียงโทรศัพท์โนเกียรุ่นเก่า ใช้รับสายและโทรออกได้เท่านั้น จึงต้องไปตามน้องสาวมาเพื่อขอใช้โทรศัพท์น้องสาวลงทะเบียนให้ ส่วนเงินที่ได้ทราบว่ารอบนี้จะให้เดือนละ 200 บาท ซึ่งถือว่าไม่มากนัก แต่ก็สามารถนำไปซื้อของกิน ของใช้ส่วนตัว ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ เพราะตนเองก็ไม่ได้ทำงานอะไรแล้ว อยู่ตัวคนเดียว วันนี้มาลงทะเบียนในฐานะคนโสดด้วย

 

ชาวบ้านที่จังหวัดพิจิตรแห่ลงทะเบียนรับสิทธิ์คนจน แน่นที่ว่าการอำเภอ หลายคนตั้งความหวัง ต้องการเงินไปจ่ายค่าไฟฟ้าที่ถูกตัด

ที่หอประชุมอำเภอเมืองพิจิตร ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากก็เดินทางมารอคิวเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมีเจ้าหน้าที่จากธนาคาร มาตั้งโต๊ะอำนวยความสะดวก โดยมีประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุพากันนั่งท้ายรถกระบะของเพื่อนบ้าน เพื่อมาลงทะเบียน โดยทางอำเภอได้มีการจัดให้ผู้มาลงทะเบีนน รับบัตรคิวและรอการเรียกคิวจนแน่นและล้านออกมาทางด้านนอก ซึ่งบรรยากาศเหมือนการคัดเลือกทหาร โดยมีการเกณท์เจ้าหน้าที่รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนมาช่วยชาวบ้านกรอกรายระเอียด

โดยนางสมศรี มีชาวนา วัย 65 ปี ชาวบ้านตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ได้เปิดเผยว่า ที่บ้านของตนเองยากจน ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง อาศัยปลูกบ้านอยู่ริมคลองในที่ดินเพื่อนบ้าน การมาขอรับสิทธิ์บัตร คนจนครั้งนี้ เพราะอยากได้เงินไปใช้จ่ายในครัวเรือน และที่สำคัญอยากได้เงินไปจ่ายค่าไฟฟ้าที่ถูกตัดมานานกว่า 10 วันแล้ว

สำหรับจังหวัดพิจิตร ได้มีการประชุมให้ประชาชนที่ต้องการรับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปรับแบบฟอร์มเพื่อกรอกรายละเอียดจากผู้ใหญ่บ้านและนัดคิวมายื่นที่ว่าการอำเภอแต่ละแห่งเพื่อไม่ให้ชาวบ้านมาจำนวนมากเกินไปและเกิดการแออัด