ปิดฉากเวที รมต.APEC SME หนุนเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ดิจิทัล
สรุปผลการประชุมรัฐมนตรี APEC SME เดินหน้าขับเคลื่อน MSME และสตาร์ทอัพ ด้วย 4 ประเด็นสำคัญ BCG model การปรับตัวสู่ดิจิทัล การแก้ปัญหาเงินทุน และการรับมือตลาดที่เปลี่ยนแปลง
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานในการประชุมรัฐมนตรีเอเปควิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 28 เปิดเผยว่า การประชุมรัฐมนตรีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (APEC SME Ministerial Meeting) ครั้งที่ 28 ซึ่งจัดในระหว่างวันที่ 9-10 กันยายนโดยมีผู้แทนระดับรัฐมนตรี จาก 21 เขตเศรษฐกิจเอเปค เข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมได้ร่วมหารือแถลงการณ์ที่สะท้อนถึงการประชุมที่เกิดขึ้น ด้วยเป้าหมายเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยครอบคลุมหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสตาร์ทอัพ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) ภายในภูมิภาคเอเปค
พร้อมทั้งแนวทางในการดำเนินการต่างๆ ร่วมกัน ระหว่างรัฐมนตรี ที่สอดคล้องกับหัวข้อการประชุมระดับรัฐมนตรีของ SME เรื่อง “การฟื้นตัวโดยรวมของ MSME ในเอเปค ผ่าน Bio – Circular – Green Economy (BCG) และระบบนิเวศที่มีผลกระทบสูง”
ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพในการจัดการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการสรุปการประชุมรัฐมนตรีภายใต้เขตเศรษฐกิจเอเปค ว่า ในการประชุม ได้มีการหารือว่าเขาจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทุกคนรวมถึงธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพ พวกเขาจะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจโลก
พร้อมทั้งฟื้นฟูและปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปค ผ่านความยืดหยุ่นทางดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้ MSME เกิดการพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาค โดยสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค ได้ร่วมกันหารือและสนับสนุนในประเด็นดังต่อไปนี้
1.เร่งรัดการประยุกต์ใช้เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model: BCG Economy Model) ซึ่งสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของธุรกิจขนาดเล็ก และยังสนับสนุนความพยายามของโลกที่จะรับมือกับภาวะโลกร้อน
2.การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างครอบคลุม การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถพัฒนาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและรายย่อย ที่มีทักษะในด้านดิจิทัลจะเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าและยืนหยัดต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ข้อจำกัดที่เกิดขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19
3.การจัดหาเงินทุนและการปรับโครงสร้างหนี้ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและรายย่อยมีความยากลำบากในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ “เนื่องจากมีขนาดเล็ก มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ไม่หลากหลาย และอาจมีโครงสร้างทางการเงินที่อ่อนแอกว่า” เพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนซึ่งจะช่วยให้ใช้ศักยภาพที่มี รัฐมนตรีและตัวแทนระดับสูงในการประชุมสนับสนุนให้มีมาตรการซึ่งจะแก้ปัญหาที่เกิดจากข้อจำกัดของการปล่อยกู้
4.การรับมือกับตลาดที่กำลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป การสร้างสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่สนับสนุนสตาร์ทอัพ ส่งเสริมนวัตกรรม เสริมสร้างการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าโลก และสร้างความเข้มแข็งให้แก่สตรี ผู้ประกอบการที่เป็นเยาวชน และกลุ่มอื่น ๆ จะช่วยให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและรายย่อยเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและมีความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี สสว. จะดำเนินการรวบรวมแนวคิดที่ถูกหยิบยกขึ้นมาระหว่างการประชุมในครั้งนี้และมุ่งพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย สำหรับการระบุแนวปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างศักยภาพMSME ผ่านการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีต่อไป เพื่อเป้าหมายของการพัฒนา MSME ของเขตเศรษฐกิจไทยให้มีศักยภาพและขีดความสามารถเพิ่มขึ้น สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ห่วงอุปทานโลก สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน และบรรลุเป้าหมายของการประชุมเอเปค 2022 คือ“Open Connect Balance” หรือการให้เอเปค "เปิด" ต่อทุกโอกาส "เชื่อมต่อ" ในทุกมิติและ "สมดุล" ในทุกด้าน