นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวในงานสัมมนา Thailand Economic Outlook 2023 จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ใน Session 4 : Power Women พลิกธุรกิจรับโลกเปลี่ยน ว่า บริษัทขับเคลื่อนธุรกิจใน 4 ได้แก่ 1.ธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งแสวงหาลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง เน้นการเพิ่มมูลค่าให้การบริการผ่านการผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาในธุรกิจ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ การให้บริการด้านโลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ตลอดจนอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์รายใหม่ทั้งภูมิภาคและระดับโลก
2.ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ที่ยังคงยืนหยัดความเป็นผู้นำในไทย และขยายธุรกิจในเวียดนามต่อเนื่อง 3.ธุรกิจระบบสาธารณูปโภค และพลังงาน บริษัทฯ มุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรม ในประเทศไทยและเวียดนาม พร้อมขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาสำหรับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม
และ 4. ธุรกิจดิจิทัล แพลตฟอร์ม จะมีการติดตั้งไฟเบอร์ออฟติก ครอบคลุมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่เหลืออยู่ให้แล้วเสร็จ ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ จะบริการที่ครบวงจรมากขึ้น พร้อมขยายการใช้เทคโนโลยี 5G ภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ
“ทั้ง 4 กลุ่ม ถือเป็นการมองเทรนด์โลก เรามีพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการลงทุนที่เวียดนามด้วยเทรนด์ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทฯ มากกว่า 80% เป็นต่างชาติ ต่างมองเห็นถึงเทรนด์ของการเปลี่ยนแปลงโลกทุกคนต่างต้องการพลังงานสะอาด ซึ่งบริษัทฯ มีพร้อมทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และลม จะช่วยตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี”
สำหรับเทรนด์การลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ลูกค้าบริษัทฯ ทั่วโลกต้องการดำเนินธุรกิจทั้งซัพพลายเชน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งบริษัทมองว่าอีวีจะมาแน่นอน ซึ่งนิคมในประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางในการลงทุนหากเทียบกับเวียดนามมองว่าจะเติบโตควบคู่กัน ความโชคดีของดระเทศ คือมีบุญเก่า โดยบริษัท มีอีโคซิสเต็มที่แข็งแรงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
“ตอนนี้ลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตรถอีวีของเรามีเยอะรวมกับซัพพลายเชนหลักหมื่นราย เรามองว่าการเติบโตอีวีมีจะแข็งแรง ซึ่งลูกค้าจีนมองไทยเป็นศูนย์การผลิตเพื่อส่งออกรถอีวีพวงมาลัยบขวาส่งออกไปทั่วโลก และจีนต้องการที่จะล้มแชมป์อย่างญี่ปุ่นให้ได้ ดังนั้น เราต้องสร้างการเติบโตและแข็งแกร่งให้ครอบคลุมทั้ง เอสเอ็มอี และองค์กร เพราะอีวีไม่ใช่เรื่องใหม่ของจีน การโตเร็วของจีนเพราะใช้ของเก่ามาปรับ”
ทั้งนี้ มองว่าประเทศไทยจะเติบโตได้อีกมาก แต่ต้องมองว่าจะไปต่ออย่างไร สิ่งที่ดีคือการเติบโตไปด้วยกันทั้งรัฐและเอกชน ใครจะมาเป็นรัฐบาลเอกชนไม่ได้มองจุดนี้ แต่มองถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ถ้ามีการทำดีแล้วก็ควรทำดีต่อไป หลายคนมองว่าการเมืองไทยไม่นิ่ง ข้อดีของประเทศไทยคือ เมื่อเปลี่ยนการเมือง โครงการก็ขยายต่อไปได้ไม่เหมือนต่างชาติหรือประเทศอื่น ดังนั้น สิ่งที่ได้เห็นมาตลอดคือนโยบายสนับสนุนในอีอีซี