‘ประยุทธ์’ หารือ ‘รมว.คลัง’ จับตาปัจจัยภายนอกทำ ตลาดเงิน-ตลาดทุนไทยผันผวน
รมว.คลังรายงานนายกรัฐมนตรีทราบสถานการณ์ตลาดเงินตลาดทุนหลังเฟดมีประชุมแบบปิด ย้ำจับมือแบงก์ชาติติดตามความเคลื่อนไหวใกล้ชิด ประเมินยังไร้ผลกระทบเศรษฐกิจภาพรวมของไทย
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ทราบถึงความเคลื่อนไหวของตลาดเงินและตลาดทุนในประเทศ หลังจากตลาดมีความกังวลต่อกรณีเมื่อวันที่ 3 ต.ค.65 คณะผู้ว่าการเฟดได้มีการประชุมแบบปิด (Closed Meeting)
เพื่อทบทวนและตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าและดอกเบี้ยมาตรฐานก่อนการประชุม FOMC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. 65 โดยผลของความกังวลดังกล่าวส่งผลให้วานนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงประมาณ 31 จุด และฟื้นตัวกลับมาบวกเกือบ 20 จุดในภาคเช้าของวานนี้ (4 ต.ค.65) หลังจากที่ผลการประชุมคณะผู้ว่าการเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ย
ขณะนี้เป็นระยะที่เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงการฟื้นตัว รัฐบาลได้ติดตามในทุกปัจจัยที่อาจจะกระทบการฟื้นตัวดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยจากภาคเศรษฐกิจจริง หรือตลาดเงินตลาดทุน
ซึ่งในส่วนของตลาดเงินและตลาดทุนนี้ กระทรวงการคลังได้ประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการติดตามปัจจัยที่มาจากต่างประเทศ การเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุน และมีการรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่อง
“รมว.คลัง รายงานสถานการณ์ล่าสุดให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ขณะนี้มีหลายปัจจัยที่ทำให้ตลาดเงิน ตลาดทุนผันผวน ทั้งการประชุมแบบปิดของเฟดเมื่อวานนี้ รวมถึงข่าวลือเกี่ยวกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในต่างประเทศ แต่วันนี้ดัชนีหุ้นไทยได้รีบาวน์กลับมาแล้วเกือบ 20 จุด โดยต้องติดตามต่อไป แต่ในเบื้องต้นคาดว่าจะไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของไทย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว