‘กอบศักดิ์’ตอบคำถามเศรษฐกิจโลกถดถอย ‘คนไทย’ ควรรับมืออย่างไร?
"กอบศักดิ์" แนะเพิ่มเงินออมรับมือเศรษฐกิจถดถอย ชี้ปีหน้าวิกฤตลามสู่เศรษฐกิจจริง ชี้เงินออมเท่าค่าใช้จ่ายรายเดือนประมาณ 1 ปี เพิ่มจากภาวะปกติ 1 เท่าตัว
“เศรษฐกิจถดถอย” หรือ “Recession” เป็นคำที่คุ้นหูมากขึ้นเรื่อยๆ นักเศรษฐศาสตร์ และหน่วยงานที่ติดตามภาวะเศรษฐกิจต่างคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มเข้าสู่ Recession และจะเกิดในหลายประเทศจนอาจกลายเป็นเป็น Global Recession
ที่ไม่ได้มีผลต่อประเทศใดประเทศหนึ่งแต่จะกระทบไปทุกประเทศทั่วโลกตามโครงสร้างเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่าผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากในปี 2565 โดยเฉพาะการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องทำให้ภาวะเศรษฐกิจของโลกจะเริ่มเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Global Recession)
ปัญหาเศรษฐกิจจะมีความรุนแรงและชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า โดยภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระดับโลกนี้ถือว่ามีความรุนแรงและจะเป็นการเกิดขึ้นครั้งที่ 5 ในรอบ 50 ปี โดยสัญญาณของปัญหาเศรษฐกิจที่จะได้เห็นคือการเริ่มปลดพนักงานของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯและยุโรป ขณะที่ประเทศตลาดเกิดใหม่ (emerging market) หลายประเทศที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินและต้องเข้าขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
เมื่อถามว่า ในเรื่องการเงินส่วนบุคคลจะจัดการอย่างไรเมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจถดถอย
กอบศักดิ์กล่าวว่าเมื่อมีสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆว่าในเรื่องเศรษฐกิจจะยากขึ้นในปีหน้าและในปีถัดไป ก็หมายความว่าเราต้องประหยัดมากขึ้น อะไรที่ไม่จำเป็นในเรื่องการใช้จ่ายก็ต้องชะลอออกไปก่อน เพื่อที่เตรียมเงินเก็บที่เป็น "Saving" ไว้ให้เพียงพอ
โดยปกติแล้วเมื่อเกิดวิกฤตเงินที่ต้องเตรียมสำรองไว้เป็นรายจ่ายต้องเพิ่มขึ้นจากปกติ 6 เดือนก็อาจจะต้องเพิ่มเป็น 12 เดือน เมื่อรู้จะยากเราต้องเตรียมเสบียงให้พร้อมเราต้องอดออมไปก่อน เพื่อที่เมื่อเกิดวิกฤตในปีหน้าเราจะอยู่ได้ เพราะว่าเรื่องของเศรษฐกิจถดถอยจะกินเวลาในปี 2566 – 2567 จากนั้นจะเป็นผลที่ต่อเนื่องจากวิกฤติของตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจะเป็นช่วง 2 ปีที่ยากมากขึ้นเพราะเศรษฐกิจโลกจะไม่ดี
อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะเป็นข้อดีในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอยก็คือเรื่องของสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาจะลดลง ใครที่ต้องการจะสร้างบ้านนั้นในปีหน้าของจะถูกมากกว่านี้ เนื่องจากประเทศจีนมีความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้น เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีสินค้าจากจีน เช่น เหล็กต่างๆก็จะทยอยไหลออกมาทำให้ถูกลงก็จะเป็นข่าวดีกับคนที่สร้างบ้านและภาคอสังหาริมทรัพย์
“ที่ต้องมาสื่อให้กับคนได้เห็นข้อมูลผ่านการเขียนในเฟซบุ๊กเป็นประจำก็เพราะผมต้องการให้คนเห็นข้อมูลเศรษฐกิจว่าวิกฤตจากภาคการเงิน จะลามสู่ธุรกิจที่แท้จริงในปีหน้า จะเป็นเรื่องของตลาดจริง เช่นเรื่องการส่งออก การผลิตที่จะกระทบ จากข้อมูลนี้ทุกคนจะเตรียมการให้ดี เพราะว่าประเทศไทยอยู่ในฐานะที่ดี
แต่เราก็ต้องเตรียมการ เหมือนน้ำมาแล้วเราอยู่ในที่ดอนแต่น้ำมามากเราก็ต้องเตรียมกระสอบทรายไม่ประมาทเติมทรายใส่กระสอบ ถ้าไม่เติมตรงนี้อาจจะท่วมบ้านได้ ผมคิดว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังเริ่มต้นแต่ปีหน้าจะหนักกว่านี้จะต้องเตรียมการให้ดี”กอบศักดิ์ กล่าว