ดาวโจนส์ร่วง 128 จุด นักลงทุนขายลดความเสี่ยง ก่อนประชุมเฟดวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์(31ต.ค.)ปรับตัวลง 128 จุด โดยนักลงทุนส่งแรงขายเพื่อลดความเสี่ยง ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 128.85 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 32,732.95 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 29.08 จุด หรือ 0.75% ปิดที่ 3,871.98 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 114.31 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 10,988.15 จุด
แม้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในวันนี้ แต่ก็ดีดตัวขึ้น 13.6% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. ซึ่งจะทำให้ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติพุ่งขึ้นในเดือนนี้มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีแนสแด็กทะยานขึ้นมากกว่า 8% และ 4% และจะทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นในเดือนนี้ หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 2 เดือน
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. และจะปรับขึ้นเพียง 0.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนพ.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกัน 4 ครั้ง หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ โดยจะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. และเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยจะมีการชิงชัยเก้าอี้ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง
รวมทั้งการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 35 ราย จากทั้งหมด 100 ราย นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 39 มลรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีกจำนวนมาก ซึ่งหากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะเหนือพรรคเดโมแครต ก็จะทำให้การผ่านกฎหมายต่างๆ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นไปอย่างยากลำบาก ท่ามกลางคะแนนนิยมที่ตกต่ำของปธน.ไบเดนในขณะนี้
ทั้งนี้ แม้ยังไม่ถึงวันที่ 8 พ.ย. แต่สหรัฐเปิดให้มีการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมแล้ว โดยขณะนี้มีไปผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วมากกว่า 20 ล้านคน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เดินทางไปใช้สิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้งกลางเทอมที่รัฐเดลาแวร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับนาตาลี หลานสาววัย 18 ปี ซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นครั้งแรก
ผลการสำรวจของ RealClearPolitics พบว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหลังการเลือกตั้งกลางเทอม จากปัจจุบันที่พรรคเดโมแครตมีเสียงข้างมากอยู่เล็กน้อย
ส่วนการเลือกตั้งในวุฒิสภาจะเป็นไปอย่างสูสีระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งก่อนการเลือกตั้งทั้งสองพรรคมีคะแนนเสียงเท่ากันอยู่ที่ 50-50