ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลง 1.33 ดอลล์ หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลด
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(16พ.ย.) ปรับตัวลง หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 400,000 บาร์เรล
อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงแรก หลังมีข่าวการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันนอกชายฝั่งโอมาน รวมทั้งข่าวมีการยิงขีปนาวุธตกใส่ชายแดนโปแลนด์
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันร่วงลงในเวลาต่อมา หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ระบุว่า ขีปนาวุธที่ตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของโปแลนด์ อาจไม่ได้ถูกยิงมาจากรัสเซีย
นักลงทุนมีความกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันในจีน หลังจีนรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่งและอีกหลายเมืองพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายไฮทัม อัล-กาอิส เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวว่า โอเปกพร้อมดำเนินการแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตลาดน้ำมัน
นอกจากนี้ นายกาอิสระบุว่า โอเปกมีความตระหนัก ระมัดระวัง และกำลังจับตามองพัฒนาการทางเศรษฐกิจทั่วโลก