ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลง 3.01 ดอลล์ ผวา G7 เคาะราคาน้ำมันรัสเซีย
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(23 พ.ย.)ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง 3.01 ดอลลาร์ หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 เตรียมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมัน ยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน จะทำให้มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 3.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
แหล่งข่าวจากสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศ G7 เตรียมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตจาก 27 ประเทศของอียูกำลังหารือข้อเสนอดังกล่าวของ G7 ในขณะนี้เพื่อให้มีการบรรลุฉันทามติภายในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น
G7 รวมทั้งอียูและออสเตรเลียมีกำหนดบังคับใช้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียดังกล่าวในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อน้ำมันรัสเซียที่มีการขนส่งผ่านทางเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่รวมน้ำมันที่มีการขนส่งผ่านท่อส่งน้ำมัน
การกำหนดเพดานราคาน้ำมันดังกล่าวถือเป็นมาตรการลงโทษต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเมื่อมีการประกาศใช้จะทำให้บริษัทเดินเรือ, บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันภัยต่อ ไม่สามารถให้บริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งคาร์โกน้ำมันรัสเซียที่มีราคาสูงกว่าเพดานที่ G7 และพันธมิตรกำหนดไว้
หลายฝ่ายมองว่าการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรลถือเป็นระดับที่เหมาะสม เนื่องจากรัสเซียยังคงมีกำไรจากการจำหน่ายน้ำมันที่ระดับดังกล่าว ขณะที่มีต้นทุนการผลิตราว 20 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำมันในตลาด ขณะเดียวกันทำให้รัสเซียมีรายได้ลดลงจากการจำหน่ายน้ำมันที่จะนำไปสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน
ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 390.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2527
การที่สต็อกน้ำมันดิบใน SPR ลดลงมีสาเหตุจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศระบายน้ำมันใน SPR จำนวน 180 ล้านบาร์เรลในช่วงเดือนพ.ค.-ต.ค. เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในประเทศ