คาดต่างชาติเที่ยวไทยเงินสะพัด 1.2 ล้านล้าน!
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวถึงการเปิดประเทศของจีนให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.นี้ และเที่ยวบินแรกได้เดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 9 ม.ค.นี้ว่า
สศช.อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยโดยต้องใช้เวลาประมาณ 2 - 3 สัปดาห์เพื่อติดตามสถานการณ์ว่าจะมีการปรับประมาณการนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ปัจจุบัน สศช.คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 ว่าจะเข้ามายังประเทศไทยประมาณ 23 ล้านคน และจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 1.2 ล้านล้านบาทจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยสมมุติฐานดังกล่าวนั้นเดิมคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มเข้าสู่ประเทศไทยได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 แต่เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเข้าสู่ประเทศไทยเร็วขึ้นก็อาจมีการปรับประมาณการจำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้โดยจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้ในการแถลงข้อมูลดังกล่าวนี้ในการแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2565 ในเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้
“การที่จีนเปิดประเทศเร็วขึ้นและมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมายังประเทศไทยเร็วขึ้นส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย ธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่การท่องเที่ยว เช่น ร้านอาหาร โรงแรม การค้าขาย ห้างสรรพสินค้าก็จะได้ประโยชน์มีรายได้ และการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยมาตรการสาธารณสุขที่เราใช้ประกอบกับการได้รับวัคซีนประมาณ 70% ของคนไทยก็จะสามารถที่จะรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้
ทั้งนี้ก็ต้องขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ช่วยยกระดับการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา ช่วยรักษาชื่อเสียงในการท่องเที่ยวของประเทศไทยไว้ด้วย”
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนเร็วขึ้นจะมีผลต่อจีดีพีในปีนี้หรือไม่ เลขาธิการ สศช.กล่าวว่าในปีนี้ สศช.คาดการณ์จีดีพีว่าจะขยายตัวประมาณ 3 – 4% ทั้งนี้แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเร็วขึ้นแต่เนื่องจากในปีนี้ประเด็นที่ต้องจับตามองอีกเรื่องคือเรื่องของภาคการส่งออกที่มีสัดส่วนต่อจีดีพีถึง 70% ซึ่งการที่ภาคการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นในปีนี้ก็จะเป็นปัจจัยที่จะกระทบกับเศรษฐกิจไทยด้วยเช่นกัน
นายดนุชา กล่าวด้วยว่าในปี 2566 เศรษฐกิจไทยต้องรักษาโมเมนตั้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไว้โดยอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ และการลงทุนของภาครัฐ โดยขณะนี้กระทรวงการคลัง ได้พยายามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐเพื่อให้เงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจตามที่กำหนดไว้ตามแผนมากที่สุด