พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้าหาสินค้าศักยภาพสูงเข้าโครงการ Local+

นางนัยนภัส สังขนุกิจ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับนโยบายนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยมีแผนเดินหน้าค้นหาสินค้าที่มีศักยภาพสูงของจังหวัดเชียงใหม่ ให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Local+ ที่กระทรวงพาณิชย์มุ่งส่งเสริมสินค้าศักยภาพ 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม BCG กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ และกลุ่มสินค้านวัตกรรม โดยจะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการในการพัฒนาสินค้า ปรับปรุงคุณภาพสินค้า ปรับรูปและดีไซน์สินค้าให้ทันสมัยตรงตามที่ตลาดต้องการ และช่วยทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจในระดับฐานราก

โดยตัวอย่างแบรนด์สินค้าที่สำนักงานฯ เห็นว่ามีศักยภาพ เช่น สยามศิลาดล เครื่องเคลือบดินเผาสีเขียวแตกลายงา , Beewax Wraps (บี-แว๊กซ์-แวร้บ) ไขผึ้งห่ออาหาร , Mr.Leaf (มิส-เตอร์-ลีฟ) หนังเทียมจากใบไม้ , Pim Collection (พิม คอ-เล็ค-ชั่น) ผ้าเขียนเทียนเอกลักษณ์ชนเผ่าม้ง , Posie Flowers (โพ-ซี่ ฟลาว-เวอร์) ดอกไม้กระดาษสาออแกนิคแฮนด์เมด , ProdPran Craft (โปรด-ปราน คราฟ) งานฝีมือโบราณ , รักษ์บาติก งานศิลปะบนผืนผ้าจากธรรมชาติ , ENP Coffee , MTT Coffee , PANA Coffee

“สินค้ากลุ่มนี้ นอกจากเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์มุ่งเน้นสนับสนุน ยังถือว่าเป็นสินค้าอัตลักษณ์เด่น มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ผ่านมา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ มุ่งเน้นสนับสนุนด้านการตลาดผู้ประกอบการศักยภาพสูงเป็นปกติอยู่แล้ว ทั้งพาเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงพาณิชย์ พาออกงานแสดงสินค้า ร่วมการเจรจาการค้ากับผู้นำเข้าในโอกาสต่าง ๆ เป็นต้น”นางนัยนภัสกล่าว

สำหรับในปีงบประมาณ 2566 สำนักงานฯ มีแผนจะสนับสนุนสินค้าศักยภาพสูงดังกล่าวเชิงประจักษ์มากขึ้น โดยจะเดินหน้าประชาสัมพันธ์สินค้าของผู้ประกอบการกลุ่มนี้ให้เป็นที่รู้จักในเชิงรุกผ่านทางโซเชียลมีเดีย นำลุยตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ เช่น Amazon พาเปิดตัวแนะนำสินค้า และผลักดันเป็นหนึ่งในรายชื่อต้น ๆ สำหรับการเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งเสนอสินค้าเป็นของสมนาคุณแขกในการประชุมระดับประเทศ หรือสำหรับแขกคนสำคัญที่มาเยี่ยมเยือนจังหวัด

รวมทั้งจะส่งเสริมและสนับสนุนให้เข้าร่วมออกงานทั้งในและต่างประเทศ ร่วมเชื่อมโยงเจรจาการค้า โดยมั่นใจมากว่าสามารถเชื่อมโยงให้เกิดมูลค่าการค้าและกระจายรายได้สู่ชุมชนได้มากกว่าปีละ 50 ล้านบาท