ครม.นัดสุดท้าย ‘เทกระจาด’ 1.7 แสนล้าน!

ครม.นัดสุดท้าย ‘เทกระจาด’ 1.7 แสนล้าน!

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดสุดท้ายวันที่ 14 มี.ค.2566 ก่อนการยุบสภา มีวาระปกติเข้าสู่การพิจารณาและวาระพิจารณาจรรวมมากกว่า 100 วาระ (วาระจร 60 วาระ) และใช้เวลาในการประชุมประมาณ 7 ชั่วโมง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการอนุมัติโครงการทิ้งทวนวงเงินรวม 173,850 ล้านบาท

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดสุดท้ายวันที่ 14 มี.ค.2566 ก่อนการยุบสภา มีวาระปกติเข้าสู่การพิจารณาและวาระพิจารณาจรรวมมากกว่า 100 วาระ (วาระจร 60 วาระ)  และใช้เวลาในการประชุมประมาณ 7 ชั่วโมง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการอนุมัติโครงการทิ้งทวนวงเงินรวม 173,850 ล้านบาท

โดยมีโครงการสำคัญ ประกอบด้วย 1. อนุมัติขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม - 20 กรกฎาคม 2566 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังคงผันผวน
  ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ประเมินผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ และผลกระโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ลดลงราว 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งระยะเวลาการดำเนินการในครั้งนี้ ประมาณ 2 เดือน จึงคาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท
2. เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 โดยปรับเพิ่มความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จากเดิม 80 บาท/คน/3 เดือน เพิ่มอีก 20 บาท/คน/3 เดือน รวมเป็น 100 บาท/คน/3 เดือน ในช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน  2566

ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคา LPG ที่ยังอยู่ในระดับสูง และเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยคาดว่าผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐกลุ่มใหม่ จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 เมษายน 2566 ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 7.5  ล้านราย รวมเป็นเงิน 150 ล้านบาท
3. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/2566 วงเงิน 716.10 ล้านบาท และมาตรการคู่ขนาน ได้แก่ โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2565/2566 วงเงินสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
โดยโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/2566 นี้ ยังคงยึดหลักการและเงื่อนไขเดิม โดยประกันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ความชื้น 14.5% ในราคา 8.5 บาท/กิโลกรัม ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ และไม่ซ้ำแปลง สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร และแจ้งเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 - 31 พฤษภาคม 2566 ระยะเวลาโครงการ เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2565 - 30 เมษายน 2567 และมีระยะเวลาการจ่ายเงิน รวม 12 งวด ตั้งแต่ 20 พฤศจิกายน 2565 - 31 ตุลาคม 2566
4. เพิ่มเงินตอบแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 4,795 ล้านบาท/ปี และเพิ่มค่าตอบแทน อบต.13,774 ล้านบาท, 
5. อนุมัติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กพท.) ดำเนินโครงการทางด่วนฉลองรัช (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) 24,060 ล้านบาท คาดเปิดใช้ในปี 2570
6.  อนุมัติในหลักการให้ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ดำเนินโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G บนคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) มีกรอบวงเงินตามโครงการทั้งสิ้น 61,628 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 14 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดบริการได้ภายในปี 66 เป็นต้นไป 
โดย โครงการนี้นอกจากจะเกิดประโยชน์ต่อ NT ให้สามารถสร้างรายได้และพลิกฟื้นธุรกิจในสถานการณ์ที่การแข่งขันสูงได้แล้ว ยังมีผลบวกต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมคือ ผลักดันให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ในการช่วยลดต้นทุนของอุตสาหกรรมในภาพรวม เกิดการแข่งขันในตลาดเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้รับบริการนอกเหนือจากผู้ให้บริการหลัก 3 ราย
7. อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ 2566-2569 สำหรับดำเนินโครงการจัดแสดงนิทรรศการในงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งสิ้น 867.88 ล้านบาท