กกพ. กลับลำ ‘ลด’ ค่าไฟ 4.70 บาท/หน่วย งวด พ.ค.-ส.ค. 66

เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. คมกฤช ตันตระวาณิชย์ ระบุ ที่ประชุม กกพ.มีมติปรับลดค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่เรียกเก็บกับประชาชนงวดใหม่สำหรับเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 ลง 7 สตางค์ต่อหน่วย จากมติเดิม 4.77 บาทต่อหน่วย เป็น 4.70 บาทต่อหน่วย ซึ่งถือเป็นการลดลง 2 สตางค์ต่อหน่วย จากงวดปัจจุบันสำหรับเดือน ม.ค.-เม.ย.2566 ที่ภาคครัวเรือนจ่ายค่าไฟอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนภาคเอกชนจ่ายค่าไฟอยู่ที่ 5.33 บาทต่อหน่วย ถือว่าลดลง 63 สตางค์ต่อหน่วย

สำหรับการลดค่าไฟครั้งนี้ เป็นไปตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ตามนโยบายกระทรวงพลังงานเสนอมาเพื่อยอมรับภาระค่าไฟฟ้าผันแปรจาก 6 งวดเป็น 7 งวด โดยจะได้เงินลดลง 4,623 ล้านบาท โดยไม่ต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง เนื่องจากสมมติฐานที่ใช้ในการคำนวณสูตรค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากการพิจารณาก่อนหน้านี้ที่ กกพ. ได้เปิดให้สาธารณชนแสดงความคิดเห็นไปแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไป กกพ. จะทำหนังสือแจ้งไปยัง 3 การไฟฟ้า(กฟผ.,MEA หรือการไฟฟ้านครหลวงและPEA หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน และจะทันงวดบิลเดือนพ.ค.2566 แน่นอน

สำหรับค่าไฟรอบสุดท้ายของปี 2566 ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณก๊าซในอ่าวไทยน้อยลงจากสัญญา 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยปัจจุบันยังอยู่ระดับกว่า 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งที่ระบุว่าจะได้เพิ่มขึ้นก็ยังไม่มีความชัดเจน โดยข้อมูลที่ได้รับระบุว่าเดือนก.ค. 2566 จะมีปริมาณ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และปลายปี 2566 จะเพิ่มเป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันก็ยังกังวลเพราะเป็นช่วงมรสุมอาจทำให้การขุดเจาะมีปัญหาและดีเลย์ออกไปอีก กังวลว่าหน้าหนาว LNG จะขึ้น ซึ่งกลางปีจะเริ่มขึ้นแล้ว ถือเป็นความเสี่ยง และสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลกระทบต่อการใช้ท่อก๊าซของรัสเซีย เกิดการแย่งกันซื้อเยอะ จึงทำให้ราคาผันผวน เพราะช่วงโควิดราคาต่ำมากไม่มีการลงทุน พอเศรษฐกิจฟื้นก็ต้องลงทุนใหม่ ทำให้ตลาดช่วงนี้ดีมานด์มากกว่าซัพพลาย ต้องรอดูงวดหน้าอีกครั้ง

สำหรับการปรับสูตรใหม่ตามข้อเสนอของเอกชนนั้น หากเสนอปรับสูตรสมมติฐานต้องปรับหมด ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนขยับขึ้น 34 บาทต่อดอลลาร์ น้ำมันดิบดูไบอิงกับราคาค่าก๊าซทั้งในอ่าวไทยและเมียนมา การคำนวณครั้งนี้ เงินไม่ได้หากไปไหนเพราะหากคิดราคาสูงไว้ ก็ไปคืนงวดถัดไป กกพ. พยายามรักษาระดับค่าไฟไม่ให้กระโดดเยอะ

ส่วนประเด็นการประกาศค่า Ft ลดลงจาก 4 เดือนนั้น ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ มีประกาศ 3 เดือนครั้ง แต่ภาคอุตสาหกรรมได้ขอให้ปรับใหม่ เนื่องจากต้องการรู้ค่าไฟล่วงหน้าเพื่อเจรจาการค้าขายได้ จึงขอให้ กกพ. ปรับและจะให้มากกว่า 3 เดือน เมื่อกลุ่มอุตสาหกรรมขอมา ก็หารือและปรับให้เป็น 4 เดือนในปัจจุบัน ส่วนการจะไม่เก็บค่า Ft เลยนั้น กกพ. ทำตัวเลขให้ได้หมดหากรัฐบาลมีเงินสนับสนุน รวมถึงการเยียวยากลุ่มเปราะบางหรือจะช่วยกลุ่มไหน กกพ. ก็ทำให้ได้หมด ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับงบประมาณ

ด้านรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษก กฟผ. ประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน ระบุ กฟผ.เสนอเงื่อนไขขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้า วงเงินประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ที่รับภาระแทนประชาชนไปก่อนจาก 2 ปี แบ่งเป็น 7 งวด เป็นเวลา 2 ปี 4 เดือน คาดว่าจะครบกำหนดชำระประมาณเดือนส.ค.2568 ทั้งนี้ กฟผ. มียอดเงินกู้ที่ 25,000 ล้านบาท และก้อนที่ 2 อีก 85,000 ล้านบาท และวงเงินกรณีฉุกเฉินอีก 30,000 ล้านบาท ซึ่งการช่วยเหลือในครั้งนี้ ถือว่ายังบริหารจัดการได้