ไทยขึ้นแท่นผลิต 'เครื่องปรับอากาศ' อันดับ 2 ของโลก รับอานิสงค์ฤดูร้อน-PM2.5

ไทยขึ้นแท่นผลิต 'เครื่องปรับอากาศ' อันดับ 2 ของโลก รับอานิสงค์ฤดูร้อน-PM2.5

สศอ. เผยอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ ปี 2566 ขยายตัวโดดเด่น รับฤดูร้อน ปัญหาฝุ่น PM2.5 และการขยายตัวตลาดอสังหาฯ หนุนความต้องการใช้เพิ่มขึ้น ชี้การผลิตเครื่องปรับอากาศสูงสุดในรอบ 8 ปี ดันส่งออกเครื่องปรับอากาศขยับขึ้นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศจีน

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ฤดูร้อนในปี 2566 นี้ ส่งผลให้อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศได้รับอานิสงส์ขยายตัวโดดเด่น จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ปรับสูงขึ้นในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา โดยในเดือนมี.ค. 2566 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ของอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ อยู่ที่ระดับ 144.39 ขยายตัวที่ 7.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ซึ่งเป็นการผลิตเครื่องปรับอากาศสูงสุดในรอบ 8 ปี ส่งผลให้ประเทศไทยขยับขึ้นเป็นผู้ส่งออกเครื่องปรับอากาศอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศจีน ทั้งนี้ คาดการณ์คำสั่งซื้อในระยะข้างหน้ายังคงได้รับอานิสงส์อย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยสนับสนุนการผลิต ได้แก่ สภาพอากาศร้อน โดยเฉพาะภาวะโลกร้อนในปัจจุบันทำให้อุณหภูมิทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงประเทศไทยโดยเฉพาะเดือนเม.ย. ของทุกปีที่คาดการณ์อุณหภูมิจะปรับขึ้นสูงสุด ซึ่งในปีนี้อุณหภูมิในบางพื้นที่สูงกว่า 50 องศาเซลเซียส เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ที่มีความสามารถในการดักจับฝุ่น PM 2.5 กรองละอองสารพิษ แก้ไขปัญหาฝุ่นควันทั้งในกรุงเทพมหานครและเขตภาคเหนือ ควบคู่กับการประหยัดพลังงาน

รวมทั้งการนำ AI เข้ามาใช้การควบคุมอุณหภูมิห้องหรือรับคำสั่งผ่านระบบอัจฉริยะ ตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การระมัดระวังในการใช้จ่ายและเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณสมบัติช่วยประหยัดไฟ ราคาย่อมเยา ผลิตในประเทศ

และตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เช่น โครงการ คอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว โดยมีอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปี 2566 จำนวน 8,336 หน่วย ขยายตัว 95.7% จากเดือนก่อน

ขณะเดียวกัน การส่งออกเครื่องปรับอากาศเดือนมี.ค. 2566 มีมูลค่าสูงถึง 849.60 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 16.67% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออก 3 เดือนแรก ปี 2566  มีมูลค่า 2,272.89 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 12.85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยตลาดส่งออกหลักของเครื่องปรับอากาศไทย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียน ตะวันออกกลาง และอินเดีย คิดเป็นสัดส่วนรวม 80% ของมูลค่าการส่งออกเครื่องปรับอากาศทั้งหมดของไทย

ทั้งนี้ สัดส่วนการผลิตเครื่องปรับอากาศของไทย แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออกประมาณ 75% และผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศประมาณ 25% 

“ในช่วงที่ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศมีทิศทางและแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่น ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ทั้งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ที่สามารถช่วยแก้ปัญหา PM 2.5 รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ที่มีการก่อสร้างใหม่ ขณะที่การส่งออกไปต่างประเทศมองว่าไทยยังคงยืนหนึ่ง และมีความสามารถในการแข่งขันสูง” นางวรวรรณ กล่าว


ไทยขึ้นแท่นผลิต \'เครื่องปรับอากาศ\' อันดับ 2 ของโลก รับอานิสงค์ฤดูร้อน-PM2.5