ไทยเดินหน้าปั้นข้าวพันธุ์ใหม่ หวังทวงแชมป์ ส่งออกตลาดโลก
ยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563-2567 ดัน 2 ปี ไทยพัฒนาสายพันธุ์ข้าวได้ 21 สายพันธุ์ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ในการส่งออกข้าวไปตลาดโลก หวังทวงแชป์ส่งออกข้าวโลก
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาประเทศไทยตกจากบัลลังก์โลกผู้ส่งออกข้าวจากอันดับ 1ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 31% ต้องตกไปเป็นอันดับ 3สูญเสียแชมป์โลกติดต่อกันหลายสมัยแพ้ทั้งอินเดีย เวียดนาม โดยอินเดียกลายเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก ตามมาด้วยเวียดนาม และไทย ซึ่งสถานการณ์การแข่งขันสินค้าข้าวในตลาดโลกปัจจุบันมีความดุเดือด รุนแรงมากขึ้น
สาเหตุหลักเพราะ”ข้าวไทย”ราคาแพง พันธุ์ข้าว ไม่ตอบสนองความต้องการของตลาด ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดข้าวโลกลดลง โดยเฉพาะพันธุ์ข้าวที่คู่แข่งของไทยพัฒนาสายพันธุ์ข้าวคืบหน้าไปหลายสายพันธุ์และนำออกสู่ตลาด จนสามารถครองใจผู้บริโภค ขณะที่ไทยยังย่ำอยู่กับที่กิน”บุญเก่า” ซึ่งมีเสียงบ่นจาก”ผู้ส่งออกข้าว”ขอให้รัฐบาลหันมาปรับปรุงพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
จนกระทั่งปี 2563 กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563-2567 ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ตั้งเป้า “ไทยเป็นผู้นำในด้านการผลิต การตลาดข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลก”โดยแบ่งข้าวออกเป็น 7 ชนิด ตามความต้องการของตลาด 3 ประเภท คือ 1.ตลาดพรีเมียม ได้แก่ ข้าวหอมมะลิและข้าวหอมไทย 2. ตลาดทั่วไป ได้แก่ ข้าวขาวพื้นนุ่ม ข้าวขาวพื้นแข็ง และข้าวนึ่ง และ3. ตลาดเฉพาะ ได้แก่ ข้าวเหนียวและข้าวสีหรือข้าวคุณลักษณะพิเศษ
ที่สำคัญคือ การพัฒนาสายข้าวพันธุ์ใหม่ให้ได้ไม่น้อยกว่า 12 พันธุ์ในช่วงระยะเวลา 5 ปี โดยมุ่งเน้นเป้าหมายที่จะได้พันธุ์ข้าวที่มีลักษณะ สั้น เตี้ย ดก ดี โดย 12 พันธุ์ จะประกอบด้วยข้าวนุ่ม 4 พันธุ์ ข้าวพื้นแข็ง 4 พันธุ์ ข้าวหอมไทย 2 พันธุ์ และข้าวที่มีโภชนาการสูง 2 พันธุ์ เพื่อตอบโจทย์ตลาดโลก โดยจะดำเนินการประกวดข้าวพันธุ์ใหม่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อส่งเสริมให้มีการวิจัยพัฒนาพันธุ์เพื่อนำไปสู่การแข่งขันในตลาดข้าวโลกได้ต่อไป
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ เป็นหมุดหมายสำคัญของอุตสาหกรรมข้าวไทย เนื่องจากเป็นการจัดประกวดพันธุ์ข้าวเชิงพาณิชย์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อีกทั้งมีรูปแบบการประกวดที่มีความพิเศษสมบูรณ์ทุกมิติ ทั้งด้านการเพาะปลูก การขัดสี และคุณภาพการหุงต้ม สามารถเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่ออนาคตข้าวไทยให้กับเกษตรกรชาวนา ผู้ประกอบการค้าข้าว ตลอดจนผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
โครงการประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์จึงเกิดขึ้นและได้ดำเนินการประกวดพันธุ์ข้าวใหม่แล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ปี 2564 ได้ข้าวพันธุ์ใหม่ 6 สายพันธุ์ คือ ประเภทข้าวหอมไทย ได้แก่ ข้าวพันธุ์ PTT13030 ข้าวพันธุ์ BioH95-CNT ประเภทข้าวขาวพื้นนุ่ม ได้แก่ ข้าวพันธุ์ RJ44 ข้าวพันธุ์ CNT15171 ประเภท ข้าวขาวพื้นแข็ง ได้แก่ ข้าวพันธุ์ PLS16348 ข้าวพันธุ์ CNT07001
ล่าสุดครั้งที่ 2 ได้ข้าวพันธุ์ใหม่ ประกอบด้วย ประเภทข้าวหอมไทย ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-06 ประเภทข้าวขาวพื้นนุ่ม ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ- 08 และ ประเภทข้าวขาวพื้นแข็ง ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-13 ซึ่งข้าวพันธุ์ใหม่ในการประกวดครั้งแรกทาง กรมการข้าว ได้รับรองสายพันธุ์ เพาะเมล็ดพันธุ์ และส่งให้เกษตรกรปลูกแล้ว ส่วนพันธุ์ที่ชนะรางวัลครั้งนี้ ได้เร่งรัดให้กรมการข้าว รับรองพันธุ์ ทดลองปลูก และผลิตเชิงพาณิชย์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปี 66 ไทยน่าจะส่งออกข้าวทะลุ 8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ส่งออกได้ 7.7 ล้านตัน ทำให้กลับมาเป็นอันดับ 2 ประเทศที่ส่งออกข้าวได้มากที่สุดในโลกเพราะไทยมีข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ที่สนองตอบต่อความต้องการของตลาดมากขึ้น เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมกันพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเพิ่มขึ้น
“วันนี้ทะลุเป้าแล้ว รวมกับของกรมการข้าว อีก 12 พันธุ์ ทำได้ ข้าวพันธุ์ใหม่ได้แล้ว 21 พันธุ์ ทะลุเป้าทั้งเชิงปริมาณจำนวนพันธุ์ข้าวและเร็วกว่าเป้าที่วางไว้ตามยุทธศาสตร์ข้าวปี 2563-2567 “นายจุรินทร์ กล่าว
การปรับปรุงพัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของตลาดข้าวโลก โดยเฉพาะพันธุ์ข้าวคุณภาพดี รสชาติดี ที่มีผลผลิตต่อไร่สูง ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันการส่งออกข้าวในตลาดโลก เป็นแต้มต่อที่จะทำให้ไทยกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ผู้ส่งออกข้าวโลกได้ไม่ยากนัก