กรมการค้าภายใน จับมือวัดห้วยปากั้ง ทำน้ำสับปะรดพบโชค ช่วยเหลือเกษตรกร
กรมการค้าภายใน เดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการผลไม้เชิงรุก จับมือวัดห้วยปากั้ง-ผู้ประกอบการ ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดภูแล ทำน้ำสับปะรดภายใต้แบรนด์” “น้ำสับปะรดพบโชค” จำหน่ายให้ประชาชน
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตนและคณะได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อขับเคลื่อนมาตราการบริหารจัดการผลไม้ปี 2566 โดยเฉพาะสับปะรดภูแล ของ จ.เชียงรายกำลังออกผลผลิตในล็อตที่ 2 แล้ว ได้มีการตั้งเป้าหมายว่าจะรับซื้อผลิตจากเกษตรกร จำนวน 17,500 ตัน หรือ 17,500,000 กิโลกรัม เป็นในเรื่องของเกษตรพันธสัญญาหรืออมก๋อยโมเดล 15,000 ตัน
ขณะเดียวกันกรมการค้าภายในได้ร่วมกับ “พระไพศาลประชาทร วิ. หรือพระอาจารย์พบโชค” เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ผนึกกำลังกัน ในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด โดยกรมการค้าภายในจะเข้าไปรับซื้อสับปะรดจากเกษตรกร แล้วนำมาให้ “บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” ซึ่งกรมได้ประสานขอให้เข้ามาช่วยแปรรูป เป็น “น้ำสับปะรด” ก่อนที่จะนำไปจำหน่ายให้กับประชาชนโดยการผลิตน้ำสับปะรดใช้ชื่อว่า “น้ำสับปะรดพบโชค” ตามชื่อ “พระอาจารย์พบโชค”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมาตน พระอาจารย์พบโชค” เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง และรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกันคิกออฟปล่อยขบวนรถนำน้ำสับประรด ไปวางจำหน่ายที่ “วัดห้วยปลากั้ง” และส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปจำหน่ายในห้างท้องถิ่น ทั่วประเทศ นำร่องในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ และศรีสะเกษ จากนี้จะเร่งผลิต และจัดส่งไปยังห้างท้องถิ่นในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
นอกจากสัปะรดภูแลกระป๋องแล้ว ยังได้ขนส่ง “ส้มโอเชียงราย” ไปจำหน่ายในห้างท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอ ที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาดด้วย
นายวัฒนศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 7 บริษัท โดยจะจัดจุดจำหน่ายภายในหมู่บ้านในปีนี้ทั้งปี อาทิ สับปะรด ลองกอง ลำไย มังคุด ซึ่งเริ่มดำเนินการไปแล้ว ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี มีหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 66 หมู่บ้าน 35 คอนโด มีลูกบ้านไม่น้อยกว่า 50,000 ครัวเรือน จะมีปริมาณผลไม้ประมาณ 5,000 ตัน โดยมีสับปะรดภูแลนำร่องโครงการ 1,000 ตัน
ขอฝากถึงพี่น้องประชาชน ช่วยกันบริโภคผลไม้ไทย ทั้งสับปะรดภูแล ลำไยจาก จ.เชียงใหม่ ลองกองจาก จ.อุตรดิตถ์ เงาะและมังคุดจากทางภาคใต้ โดยติดตามได้ทาง www.dit.go.th , Line @mobilepanich หรือ Line @Mr.dit ที่สามารถเช็คจุดจำหน่ายสินค้าตามมาตราการบริหารจัดการผลไม้ปี 2566 ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งจะเปิดจำหน่ายทั้งหมด 100 จุด ทุกวันในเขตกรุงเทพและปริมณฑล
ทั้งนี้ ฝากเตือนผู้ประกอบการที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท หรือฉวยโอกาสขายแพงเกินสมควร โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ที่ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรหรือสินค้าใดๆ ที่ต้องขออนุญาตขนย้าย หากตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด