ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส ปิด21ก.ค. พุ่งกว่า 1 ดอลล์ กังวลน้ำมันตึงตัว
ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส ปิดวันศุกร์ (21ก.ค.) ปรับตัวขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ ภาวะน้ำมันตึงตัว
ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส ปิดวันศุกร์ (21ก.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ ตลาดไนเม็กซ์ บวก 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.9% สู่ระดับ 77.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน น้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ราคา 81.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลเกี่ยวกับ ภาวะน้ำมันตึงตัว หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 700,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียประกาศปรับลดอุปทานน้ำมันในตลาด โดยซาอุดีอาระเบียขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงสิ้นเดือนส.ค. ขณะที่รัสเซียจะลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.
การปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย และการปรับลดการส่งออกน้ำมันของรัสเซียจะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดลง 1.5%
ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่จีนนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิ.ย. และความหวังที่ว่าจีนเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจ
คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการฟื้นฟูอุปสงค์และการบริโภคภายในประเทศ หลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 6.3% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3%
นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีก, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า