ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเพิ่มกว่า 3 ดอลล์ กังวลตะวันออกกลางเดือด

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเพิ่มกว่า 3 ดอลล์ กังวลตะวันออกกลางเดือด

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันจันทร์(9ต.ค.)ปรับตัวขึ้น 3.59 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 86 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ บวก 3.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศว่า อิสราเอลจะทำการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของตะวันออกกลาง ด้วยการตอบโต้กลุ่มฮามาสอย่างสาสม

"สิ่งที่ฮามาสจะเผชิญจะเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวและยากลำบาก" นายเนทันยาฮูกล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสทำการโจมตีอิสราเอลอย่างรุนแรงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวอิสราเอลถูกสังหารกว่า 700 ราย ขณะที่ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 500 รายจากการตอบโต้ของอิสราเอล ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 รายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติอีกหลายราย

อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะยังไม่ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อปริมาณน้ำมันในตลาดในระยะใกล้ แต่จะกระทบต่อการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะพุ่งแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในเดือนมิ.ย.2567

ด้านนายวิเวก ธาร์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของธนาคารคอมมอนเวลธ์ ระบุในรายงานว่า เหตุการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น

"การที่ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและอย่างยาวนาน เหตุการณ์ความขัดแย้งนี้จะต้องกระทบต่อการขนส่งน้ำมัน และทำให้ปริมาณน้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแหล่งผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ปฏิกริยาที่หนุนราคาน้ำมันมักเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และมักถูกบดบังจากปัจจัยอื่น" รายงานระบุ

ทั้งนี้ อิสราเอลและปาเลสไตน์ต่างก็ไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ โดยอิสราเอลมีโรงกลั่นน้ำมันเพียง 2 โรง ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกันราว 300,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ปาเลสไตน์ไม่มีการผลิตน้ำมัน