สงครามฉุดส่งออกไทยหดตัว -1.7% ปีหน้าขยายตัว 3.6%

อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ธนวรรธน์ พลวิชัย ระบุ คาดการณ์การส่งออกปี 2566 หดตัวติดลบ 2% มีมูลค่าการส่งออกราว 281,593 ล้านดอลลาร์ จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ 

โดยในไตรมาสที่ 4 มีปัจจัยเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยประเทศคู่ค้าอยู่ในระดับสูงส่งผลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ราคาส่งออกไทยสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการผลิต และราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงปัญหาเอลนีโญที่ส่งผลต่อการส่งออกสินค้าเกษตร แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากเงินเฟ้อของไทยที่ต่ำ ค่าเงินบาทอ่อนค่ากว่าคู่แข่งส่งผลดีต่อความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงนโยบายผลักดันการส่งออกช่วงโค้งสุดท้ายของปี

สำหรับการส่งออกปี 2567 คาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 3.6% มีมูลค่าราว 291,773 ล้านดอลลาร์ จากการชะลอตัวของเงินเฟ้อ และความต้องการสินค้าในประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งนโยบายผลักดันการส่งออกจากภาครัฐที่จะกระตุ้นในตลาดต่างๆ ปี 2567 การส่งออกน่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยโดดเด่นขึ้นได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขยายตัวได้ 4.5-5%

สำหรับปัจจัยเสี่ยงการส่งออกปี 2567 มาจากอัตราดอกเบี้ยประเทศต่างๆ ที่ยังทรงตัวในระดับสูงกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจ เอลนีโญส่งผลให้ปริมาณผลผลิตของเกษตรกรลดลงราคาสูงขึ้น และส่งออกลดลง ค่าเงินบาทที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้นจากการลดดอกเบี้ยของเฟดภายในสิ้นปี 2567 และการท่องเที่ยวของไทยที่เข้มแข็งขึ้นส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนการผลิต

นอกจากนี้ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ทั้งจีน-สหรัฐ ที่ขัดแย้งในทุกมิติ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังยืดเยื้อ ความขัดแย้งของจีน-ไต้หวัน ที่อาจลุกลามสู่สงคราม ข้อพิพาททะเลจีนใต้หากรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งทางทะเลของไทย

สำหรับสงครามอิสราเอล-ฮามาส เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทย แต่กรณียืดเยื้อจะส่งผลให้การส่งออกหดตัว -0.1% กรณีสงครามยืดเยื้อจนปิดการขนส่งการส่งออกจะหดตัว -0.3% กรณีสงครามขยายวงกว้างทั่วตะวันออกกลางซึ่งมีโอกาสเกิดน้อยมาก การส่งออกจะหดตัว -1.7%

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์