ลูกบ้านแอชตัน อโศก ร้อง ร.ฟ.ม. ขอใช้ประโยชน์ที่ดินของ ร.ฟ.ม. เป็นทางเข้า-ออก
ลูกบ้านแอชตัน อโศก ร้อง ร.ฟ.ม. ขอใช้ประโยชน์ในที่ดินของ ร.ฟ.ม. เป็นทางเข้า-ออก หลังศาลแพ่งกรุงเทพใต้คุ้มครองชั่วคราว วอนพิจารณาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หวั่นส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทั้งนักลงทุน-สถาบันการเงิน-ความมั่นใจของผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ม.) นายพิสุทธิ์ รักวงษ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจนำตัวแทนลูกบ้านแอชตัน อโศก เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ม.) เพื่อขอใช้ประโยชน์ในที่ดินของ ร.ฟ.ม. เป็นทางเข้า-ออก โครงการแอชตัน อโศก เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากที่ ร.ฟ.ม.ได้ปิดประกาศสงวนสิทธิ์การใช้ที่ดินได้ตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืน และกิจการของ ร.ฟ.ม. เท่านั้น ทั้งที่ได้ทำสัญญาไว้กับบริษัท อนันดาฯ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ลูกบ้านที่ไม่มีความมั่นคงในทางเข้า-ออกโครงการฯ อีกทั้งไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆ กับห้องชุดดังกล่าวได้ จนกระทั่งลูกบ้านจำนวนหนึ่งได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้าม ร.ฟ.ม.ปิดกั้นทางเข้า-ออก โครงการฯ ลูกบ้านจึงมายื่นหนังสือขอใช้ที่ดินของ ร.ฟ.ม. เป็นทางเข้า-ออก โครงการฯ
พร้อมชี้ว่า ปัจจุบัน ร.ฟ.ม.ได้ให้ทุกโครงการที่ติดกับแนวรถไฟฟ้าสามารถใช้ทางเข้า-ออกได้ จึงเห็นว่า ร.ฟ.ม. ควรปฏิบัติกับประชาชนในมาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะโครงการอื่นๆทั้งหมดที่เวนคืนมาแล้วสามารถอนุญาตได้ ซึ่งตอนนี้เรามีรายชื่อทุกโครงการอยู่ในมือแล้ว ทั้งของ รฟม. กทม. และส่วนราชการอื่นๆ
“ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่เพียงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับลูกบ้านอย่างประเมินค่าไม่ได้ ทั้งในแง่สุขภาพจิต การซื้อขายห้องชุด การรีไฟแนนซ์ ที่สำคัญหากลูกบ้านหมดความอดทนไม่ผ่อนชำระต่อกับธนาคาร ก็จะกลายเป็นหนี้เสียกับสถาบันการเงิน ซึ่งไม่สามารถนำทรัพย์ไปขายทอดตลาดได้ เพราะไม่มีคนซื้อ ขณะเดียวกัน ยังส่งผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่จะขาดความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค และนักลงทุน โดยเฉพาะโครงการที่มีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาร่วมด้วย ที่อาจมองเห็นถึงความไม่แน่นอนของการให้ใบอนุญาตต่างๆ จากภาครัฐ ซึ่งแน่นอนว่าจะกระทบต่อการลงทุนในอนาคต” นายพิสุทธิ์ กล่าว
นายพิสุทธิ์ ยังหวังว่า ผลการพิจารณาของ ร.ฟ.ม. และผลการพิจารณาของคณะทำงาน กระทรวงคมนาคม ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าจะเป็นไปในทิศทางบวก แต่หากผลออกมาในเชิงที่เป็นลบ ทางลูกบ้านฯ จะยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรีต่อไป