'คมนาคม' มั่นใจได้ข้อยุติปม 'แอชตัน อโศก' เกิดผลดีกับทุกฝ่าย

'คมนาคม' มั่นใจได้ข้อยุติปม 'แอชตัน อโศก' เกิดผลดีกับทุกฝ่าย

ผลศึกษา "แอชตัน อโศก" คมนาคม มั่นใจมีข้อยุติที่ดีต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะลูกบ้าน  เล็งเชิญทุกฝ่ายหารือต่อ ธันวาคมนี้

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2566  ที่กระทรวงคมนาคม   ตัวแทนกลุ่มลูกบ้านโครงการแอชตัน อโศก เดินทางเข้าติดตามความคืบหน้าจาก นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ  รมช.คมนาคม  ที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบการอนุญาตใช้พื้นที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)  เป็นเวลา 30 วัน  ซึ่งครบกำหนดในวันนี้  โดยมี นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานฯ  ได้พบปะพูดคุยถึงความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ระบุว่า รฟม. ในฐานะเลขานุการคณะทำงาน อยู่ระหว่างสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อเสนอไปยังนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ซึ่งเป็นผลที่ได้จากการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน เพื่อหาทางออกช่วยเหลือลูกบ้าน มองว่าทำอย่างไรให้ลูกบ้านได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางเข้า-ออก  โดยไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายกับคดีที่เกิดขึ้น  แต่คณะทำงานฯ ได้ศึกษาแนวทางการต่อสู้คดีและคำวินิจฉัยต่างๆ

ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะมีทางออกให้กับลูกบ้านได้ เพียงแต่เป็นเรื่องที่ลูกบ้านและผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องมารับฟัง ซึ่งคณะทำงานฯ มีคำแนะนำให้ 2 ทาง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงว่าจะก้าวล่วงต่อคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้

\'คมนาคม\' มั่นใจได้ข้อยุติปม \'แอชตัน อโศก\' เกิดผลดีกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะได้ข้อสรุปที่ รฟม. เลยหรือต้องผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายสรพงศ์ กล่าวว่า จะต้องประกอบกันหลายเรื่อง ทั้งลูกบ้านและเจ้าของโครงการ ซึ่งคงต้องอธิบายให้ฟัง รวมถึงทาง รฟม.ก็ต้องดำเนินการเองด้วยบางส่วน ซึ่งคิดว่าน่าจะมีทางออกได้ แต่ขอความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน  โดยขณะนี้ทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาและอัยการ ก็ให้ความสำคัญมาก โดยการประชุมแต่ละครั้งจะเปิดกฎหมาย เพื่อดูแลความเป็นธรรมให้กับลูกบ้าน พยายามให้คำแนะนำที่ดี เพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบร้ายแรงไปกว่าที่เป็นอยู่  

เมื่อถามว่า ในสิ้นปีนี้ยังไม่สามารถจบเรื่องได้ใช่หรือไม่ นายสรพงศ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งบอกว่าปีนี้จบได้หรือไม่ได้ ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ได้เริ่มต้นและพยายามทำมา 1 เดือน และเรื่องนี้มีโอกาสที่ดี แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้มาก โดยจะต้องประชุมกันและเชิญหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องมานั่งคุยกันอีกครั้ง หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรเสร็จสิ้น

 

“รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้ความใส่ใจ และกำกับให้พยายามดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับลูกบ้านด้วย และพยายามติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งกรมที่ดิน เอกสารจาก กทม. ขณะเดียวกันทราบว่าทางกทม.ก็ได้ตั้งคณะทำงานด้วย ซึ่งทางกระทรวงฯ ก็จะขอผลของคณะทำงานของ กทม. มาประกอบการพิจารณาด้วย จึงเชื่อว่าน่าจะมีทางออกที่ดี และทำให้ลูกบ้านสบายใจขึ้น”  นายสรพงศ์ กล่าว

นายสรพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้กระทบกับหลายฝ่าย ทั้งลูกบ้านที่ซื้อบ้านไปแล้ว มีหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด จึงไม่อาจเพิกเฉยเรื่องของหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ ขณะเดียวกันก็กระทบกับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตั้งหลักดีๆ ว่าจะทำอย่างไรให้บุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้  

พร้อมยืนยันหนักแน่นว่า ทางคณะทำงานฯมีหลักการให้ความช่วยเหลือ แต่จะขอพูดในชั้นกรรมการ ขณะเดียวกันทราบว่าลูกบ้านได้ยื่นศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลมีคำสั่งคุ้มครองทางจำเป็น 13 เมตร ที่ใช้อยุ่ในปัจจุบันนั้น ถือเป็นโอกาสที่ดีของลูกบ้าน ที่คำอนุญาตในการก่อสร้างอาคารสูงยังไม่ได้ยกเลิกไป แต่ศาลยังคุ้มครองอยู่ ฉะนั้นช่วงระหว่างนี้ต้องวางแผนว่าจะทำอย่างไร กรณีที่คำวินิจฉัยออกมาเป็นทางบวกกับลูกบ้านก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าออกมาเป็นลบจะทำอย่างไร ซึ่งประเด็นนี้เรามีคำแนะนำ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย  พร้อมขอให้ลูกบ้านแอชตันฯ  สบายใจว่า กระทรวงคมนาคมมีความตั้งใจและมีคำแนะนำ รวมทั้งมีทางออกที่ดีให้แน่นอน เพียงแต่เหตุผลที่ล่าช้าเป็นเรื่องของประเด็นข้อกฎหมายที่จะต้องระมัดระวัง