'OR' ทุ่ม 600 ล้าน เปิดตัว พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 ตอบโจทย์ความยั่งยืน
"OR" ทุ่ม 600 ล้าน เปิดตัว พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน จ่อปิดดีลธุรกิจโรงแรมในปั๊มน้ำมัน คาดได้ความชัดเจนกลางปีหน้า รับธุรกิจอีวีบูม เล็งสร้างปั๊มชาร์จอีวีเต็มรูปแบบ มั่นใจเห็นโฉมปลายปีหน้า
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พร้อมด้วย นายพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน OR เป็นประธานในพิธีเปิดสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 (PTT Station Flagship วิภาวดี 62) ด้วยงบลงทุน 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นต้นแบบสถานีบริการที่จะสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของ OR ที่พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้คน ชุมชน สิ่งแวดล้อม เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด SDG ในแบบของ OR ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่สร้างส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน ชุมชน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีจัดการสถานีบริการให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายดิษทัต กล่าวว่า พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 นับเป็นสถานีบริการที่เป็นต้นแบบหรือแฟลกชิป (Flagship) ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ OR ซึ่งผสมผสานแนวคิดการบริการจัดการแบบ SDG ในแบบของ OR ที่มุ่งไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งนำเสนอระบบนิเวศของ OR (OR Ecosystem) ในธุรกิจของ OR และพันธมิตรได้อย่างครบวงจร และยังถือเป็นสถานีบริการต้นแบบสำหรับการออกแบบสู่การขยาย พีทีที สเตชั่น ในอนาคตอีกด้วย
สำหรับของขวัญปีใหม่ที่จะถึงนี้ OR พร้อมที่จะออกแคมเปญต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้คนมาใช้อีโคซิสเต็ม พร้อมสนับสนุนหน่วยงานราชการ เพื่อรับนโยบายดูแลราคาพลังงานให้กับประชาชน อีกทั้ง ช่วงเทศกาลปริมาณการใช้น้ำมันที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการเดินทาง OR ยืนยันว่าน้ำมันไม่ขาดแน่นอน พร้อมเตรียมพร้อมน้ำมันที่มีคุณภาพสูง กำมะถันต่ำ รองรับมาตรฐานยูโร 5 ที่จะใช้วันที่ 1 ม.ค. 2567 นี้
สำหรับสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (อีวี) ปัจจุบันได้ติดตั้งครอบคลุมทั่วประเทศแล้วกว่า 800 หัวจ่าย ครอบทุก 77 จังหวัด และปีหน้าจะเพิ่มอีกกว่า 500 หัวชาร์จ และตั้งเป้าปี ค.ศ. 2030 ติดตั้งมากกว่า 7,000 หัวจ่าย ซึ่งยืนยันว่าไม่หยุดรับใช้ประชาชนและรับนโยบายจากรัฐในเรื่องของการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจากข้อมูลมีรถอีวีที่จดทะเบียนกว่า 8 หมื่นคัน OR จะเร่งกระจายการติดตั้งให้เพิ่มขึ้น ซึ่งยืนยันว่าในปริมาณขณะนี้เพียงพอต่อความต้องการ
"กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งเราติดตั้งตามปั๊มน้ำมัน สถานบริการต่าง ๆ ส่วนบริษัทในเครือก็มีการติดตั้งตามที่ต่าง ๆ ด้วย อีกทั้ง ตามเทรนด์การลดธุรกิจน้ำมันและเทรนด์การใช้รถอีวี ปลายปีหน้า จะเห็นปั๊มชาร์จอีวีเต็มรูปแบบ"
นายดิษทัต กล่าวว่า สำหรับแนวคิดการบริการจัดการตามแนวคิด SDG ตามแบบของ OR ที่ปรากฏในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 แห่งนี้ มีครบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
“S” หรือ “SMALL” มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก โดยมีร้านไทยเด็ดต้นแบบ ที่สนับสนุนสินค้าชุมชนจากทั่วประเทศ ร้านภัทรพัฒน์ ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิชัยพัฒนา และ “Common Space” หรือพื้นที่เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนเพื่อให้ชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน
“D” หรือ “DIVERSIFIED” มุ่งเน้นการสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตในทุกรูปแบบผ่านแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ของ OR ที่มีศักยภาพ โดยสถานีบริการแห่งนี้มีร้านค้าจากแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งในเครือ OR และพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่ อเมซอน เท็กซัส ชิคเก้น พาคามาร่า และโอ้กะจู๋ เป็นต้น
“G” หรือ “GREEN” มุ่งเน้นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) โดย OR ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการสถานีบริการแห่งนี้ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้คนชุมชนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันเพื่อเสริมความมุ่งมั่นในเป้าหมายเรื่อง Carbon Neutrality ของ OR ไม่ว่าจะเป็น การใช้พลังงานอย่างยั่งยืนจากการออกแบบอาคารสอดแทรกเข้าไปในพื้นที่ธรรมชาติ ในรูปแบบ Green Station ร่วมกับเทคโนโลยีการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อใช้ภายในสถานีบริการและร้านค้าที่ OR ดำเนินการ
พร้อมทั้งได้ติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (G-Box) จากกลุ่มบริษัทในเครือ NUOVO PLUS เพื่อจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนาการนำเทคโนโลยี AI-CCTV for Customer Carbon ที่สามารถตรวจจับระยะเคลื่อนรถ และยี่ห้อรถ เพื่อคำนวณก๊าซ CO2 ที่เกิดขึ้นของผู้บริโภคที่ภายในสถานีบริการได้
นอกจากนี้ OR ยังสอดแทรกโครงการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ร้านคาเฟ่ อเมซอน ใช้แก้วร้อนที่เป็นเป็น Bio degradable และการนำวัสดุเหลือใช้มาผลิตเป็นสินค้า (Upcycling Products) ได้แก่ เสื้อและผ้ากันเปื้อนของพนักงาน รวมไปถึงวัสดุตกแต่งร้าน เป็นต้น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คนและชุมชน ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง
นายพิมาน เปิดเผยว่า พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 จะเติมเต็มความสุขให้ทุกคนได้มากกว่าเดิม ด้วยจุดเด่นที่มีสินค้าและบริการหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนอย่างครบครัน บนพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยร้านอาหารแบรนด์ต่าง ๆ และสินค้าบริการเพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นร้าน คาเฟ่ อเมซอน คอนเซ็ปต์ สโตร์ (Café Amazon Concept Store) ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ อเมซอน รูปแบบพิเศษ “Coffee X People” ที่ออกแบบเพื่อการใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภคที่มานั่งในร้าน โดยมี Specialty Bar
สำหรับผู้สนใจกาแฟ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับครอบครัว และพื้นที่ Co-Working Space รวมทั้งมีเมนูพิเศษที่มีเฉพาะที่สาขานี้เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าแบรนด์ใหม่ ๆ พร้อมเมนูพิเศษให้เลือกหลากหลาย เช่น ร้านกาแฟพาคามาร่า (Pacamara) ซึ่งเป็นสาขาแรกที่เปิดให้บริการในสถานีบริการ และเป็นสาขาแรกที่เสิร์ฟเมนูอาหารและเบเกอรี่ รวมไปถึง ร้านโอ้กะจู๋ ซึ่งเป็นสาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ 2 ชั้น รองรับลูกค้าได้กว่า 180 คน พร้อมให้บริการทั้งแบบ Drive Thru, Dine-In, Takeaway และ Delivery และยังมีเมนูพิเศษที่มากกว่าสาขาอื่น อีกด้วย
นอกจากนี้ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 ยังเน้นเรื่องการให้บริการน้ำมันและพลังงาน ซึ่งเป็นความโดดเด่นของ พีทีที สเตชั่น มาโดยตลอด ตอบโจทย์การใช้พลังงานทุกรูปแบบ เพื่อรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพที่มีให้บริการอย่างครบครัน ทั้งเกรดพรีเมียม (Super Power) และเกรดมาตรฐาน (Xtra Save) และจุดชาร์จ EV Centralized Charger ที่สามารถให้บริการได้ 6 หัวชาร์จพร้อมกัน รองรับการชาร์จไฟสูงสุด 180 Kw อีกทั้งยังมีโชว์รูมรถ BYD ตามแนวโน้มความต้องการรถไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก