ดีลประวัติศาสตร์ 'พลังงาน' แห่งปี 66 'บางจาก' ซื้อ 'เอสโซ่'
ดีลประวัติศาสตร์แห่งปี 2566 "บางจาก" เข้าซื้อ "เอสโซ่" สำเร็จภายใน 1 ปี หลังจากวางแผนการควบรวมถึง 4 ปีเต็ม มั่นใจยอดขายปี 2567 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากยอดขายปี 2566 ที่ 3.6 แสนล้าน พุ่งเป็น 5 แสนล้าน
กลายเป็นข่าวใหญ่แห่งวงการพลังงาน เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2566 บอร์ดบริหาร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อนุมัติพร้อมลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. (เอ็กซอนโมบิล)
โดย นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บางจาก เล่าวว่า ดีลการเจรจาเพื่อเข้าซื้อหุ้นของเอสโซ่นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการต่อยอดธุรกิจให้ครอบคลุม โดยธุรกิจน้ำมันยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจและสร้างรายได้ให้กับองค์กรควบคู่กับการบาลานซ์ธุรกิจ โดยที่ผ่านมาบางจาก ได้มีแนวคิดในการจะเพิ่มโรงกลั่นน้ำมันเมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และได้เริ่มเจรจาอย่างจริงจังกับ เอ็กซอนโมบิลอย่างจริงจังเป็นเวลาถึง 1 ปีเต็ม
ต่อมาคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้พิจารณาคำขออนุญาตรวมธุรกิจระหว่างบางจากและเอสโซ่ (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2566 โดยกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไข 6 ข้อ ให้ปฏิบัติ คือ
1.ห้ามมิให้บางจาก เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของหน่วยงานภาครัฐ เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เว้นแต่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
2.ให้บางจาก จัดซื้อน้ำมันดิบจากคู่ค้ารายใดรายหนึ่งไม่เกินกว่า 50% เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ
3.ให้บางจาก คงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างลูกค้าในตลาดค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ได้ทำไว้กับเอสโซ่ จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขในสัญญาเดิม
4.ให้บางจาก คงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบธุรกิจสถานีบริการภายนอกของแบรนด์ ESSO ที่ได้ทำไว้กั เอสโซ่ จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขในสัญญาเดิม
5.ให้บางจาก ทำแผนการพัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจพลังงานสีเขียว โดยต้องดำเนินโครงการไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมา และต้องมีงบประมาณในการดำเนินโครงการที่เกี่ยวกับการส่งเสริมพลังงานสีเขียวและการจัดการสิ่งแวดล้อม ไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ
6.ให้บางจาก จัดทำแผนการส่งผ่านประโยชน์ที่ได้รับจากการรวมธุรกิจไปสู่ผู้บริโภคและสังคม โดยต้องดำเนินโครงการไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ให้จัดทำแผนการดำเนินงานเสนอต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ และรายงานผลการดำเนินงานของปีที่ผ่านมาต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายในไตรมาสแรกของปีถัดไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 บางจาก ได้ชำระราคาซื้อขายหุ้นสามัญของเอสโซ่จำนวน 2,283,750,000 หุ้น หรือคิดเป็น 65.99% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ ESSO ให้กับ ExxonMobil Asia Holdings เสร็จสิ้นในราคา 9.8986 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นวงเงินรวม 2.26 หมื่นล้านบาท โดย ExxonMobil Asia Holdings ได้ดำเนินการโอนหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ ESSO เป็นบริษัทย่อยบางจาก
ทั้งนี้ บางจากจะเข้าดำเนินการโรงกลั่นน้ำมันขนาดกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน มีหุ้นบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (Thappline) 21% และหุ้น บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) 7.06% และพื้นที่และท่าเรือ 800 ไร่ มีเครือข่ายคลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ทั่วประเทศ 832 แห่ง ส่งผลให้บางจากจะมีกำลังการกลั่นน้ำมันสูงสุดในประเทศรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวันจากโรงกลั่นน้ำมันมาตรฐานระดับโลก 2 แห่งคือโรงกลั่นบางจากพระโขนงและโรงกลั่นบางจากศรีราชา
"เมื่อรวมกับธุรกิจของบางจากจะทำให้มีกำลังการกลั่นจากโรงกลั่นบางจากและโรงกลั่นศรีราชา (เอสโซ่) รวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการรวม 2,100 แห่ง ซึ่งบางจากจะทำการรีแบรนด์ปั๊มเอสโซ่ 832 แห่ง ให้เสร็จภายใน 2 ปี เพื่อจะได้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งการจัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น รวมถึงความสามารถในการมีท่อส่งน้ำมันทั้ง 2 ท่อ คือ บางปะอิน และสระบุรี ถือว่าใหญ่สุดในประเทศ
บางจากได้ตั้งเป้ายอดขายปี 2567 เติบโตที่ 5 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่มียอดขายราว 3.6 แสนล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเข้าซื้อกิจการเอสโซ่ มูลค่ารวม 5.5 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าขยายเครือข่ายสถานีบริการจาก 2,221 สถานี ณ สิ้นปี 2566 เป็นมากกว่า 2,500 สถานีในปี 2573
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2566 กลุ่มบริษัทบางจากได้ประกาศเปลี่ยนแปลงชื่อ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) และชื่อย่อหลักทรัพย์เป็น “BSRC”
"นับรวมเป็นเวลา 231 วัน จากวันที่ 12 ม.ค.2566 ที่บางจากได้ประกาศซื้อหุ้นเอสโซ่จนมาถึงวันโอนเงินชำระค่าหุ้นวันที่ 31 ส.ค. 2566"