ข่าวดีเศรษฐกิจใน ‘เดือนเมษาฯ’ กับโมเมนตัมเชิงบวกที่ ‘รัฐบาล’ คาดหวัง
ถอดรหัสข่าวดีเศรษฐกิจ - ฤกษ์ดีเศรษฐกิจในเดือนเมษาฯ เคาะสรุปแหล่งเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10 เม.ย. เล็งงบประจำช่วยทำโครงการ ก่อนเสนอเข้า ครม. ลุ้น 10 เม.ย.ประชุม กนง.ลดดอกเบี้ยครั้งแรก หลังคงดอกเบี้ย 2.5% มาต่อเนื่องจับตารัฐบาลงัดกลยุทธ์บริหารเชื่อมั่นต่อเนื่องครึ่งปีหลัง
เดือนเมษายนที่จะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้เป็นวันที่มีวันหยุดมาก และมีวันสำคัญหลายวันของประชาชนคนไทยทั้งวันจักรี และเทศกาลสงกรานต์ วันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย
อย่างไรก็ตามแม้จะมีวันหยุดมากแต่กับรัฐบาลที่บริหารประเทศมากว่า 6 เดือน และคะแนนนิยมทั้งของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรียังไม่กระเตื้องขึ้นย่อมคาดหวังว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่พอจะมีข่าวดีมาช่วยให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีโมเมนตัมเชิงบวกที่พอจะต่อเนื่องไปจนถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
10 เม.ย.เคาะแหล่งเงินดิจิทัลวอลเล็ต
ข่าวดีแรกที่จะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.ซึ่งทั้งเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังได้บอกไปแล้ว และบอกว่าเป็น “ฤกษ์ดี” คือวันที่ 10 เม.ย.2567 ซึ่งในวันนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการเพื่อเติมเงิน 10,000 บาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยวาระสำคัญคือการเคาะแหล่งที่มาของเงินในโครงการนี้ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 2 – 3 ทางเลือกระหว่างการใช้เงินกู้ และงบประมาณรายจ่ายประจำปี หลังจากที่ได้ข้อสรุปเรื่องแหล่งเงิน และไทม์ไลน์ในโครงการนี้แล้ว โครงการจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการยืนยันว่าโครงการนี้รัฐบาลจะเดินหน้าตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อให้สามารถแจกเงินได้ทันภายในไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนเทศกาลปีใหม่ 2568
ทั้งนี้ในวันที่ 10 เม.ย.นายกรัฐมนตรีเตรียมที่จะแถลงข่าวใหญ่เกี่ยวกับโครงการนี้อีกครั้งเหมือนที่เคยแถลงข่าวไปในเดือน พ.ย.ปีก่อนหลังจากที่มีการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ครั้งแรก
ลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ยครั้งแรก
อีกข่าวดีทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.ปีนี้ซึ่งเรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลโดยตรงแต่อยู่ในประเด็นที่ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลมอร์นิเตอร์จับตาอยู่ตลอดเวลาคือเรื่อง “อัตราดอกเบี้ยนโยบาย” โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 เม.ย.เช่นกัน ซึ่งสิ่งที่น่าจับตาก็คือในการประชุมครั้งนี้ กนง.จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากระดับ 2.5% หรือไม่ หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ยังมีสัญญาณอ่อนแอและสำนักวิจัยและหน่วยงานเศรษฐกิจหลายแห่งได้ปรับลดประมาณการจีดีพีปีนี้ลงไปต่ำกว่าระดับ 3%
โดยการประชุม กนง.ที่ผ่านมา กนง.เสียงแตกมีมติ 5:2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% ขณะที่สำนักวิจัยเศรษฐกิจอย่าง Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายปีนี้จะอยู่ที่ 2 ครั้ง มาอยู่ที่ระดับ 2% ส่วนแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯคาดการณ์ว่าจะลดลงประมาณ 3 ครั้งหรือลดลงมา 0.75% จากปัจจุบันที่ระดับ 5.25 – 5.50% ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์หลายท่านมองว่าวงจรของดอกเบี้ยขาลงเริ่มขึ้นแล้ว
แน่นอนว่าทั้งปัจจัยเรื่องของการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต และการลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้ง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ที่ใกล้จะประกาศใช้ถือเป็นข่าวดีที่กำลังจะเกิดขึ้นในทางเศรษฐกิจ
รักษาโมเมนต้มเศรษฐกิจเชิงบวกต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามการที่จะรักษาโมเมนตัมของข่าวดีนี้ให้ต่อเนื่องและเป็นผลบวกกับเศรษฐกิจต่อไปจนถึงครึ่งปีหลังก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องประคับประคองให้เกิดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดก็คือขับเคลื่อนให้สิ่งที่เคยแถลงนโยบายไว้เกิดขึ้นจริงให้ได้ สิ่งนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจไทยได้ดีที่สุด