'เผ่าภูมิ' ยันรัฐบาลยังไม่มีนโยบายแก้กม.แบงก์ชาติ - โยกหนี้ FIDF ให้ ธปท.

'เผ่าภูมิ' ยันรัฐบาลยังไม่มีนโยบายแก้กม.แบงก์ชาติ - โยกหนี้ FIDF ให้ ธปท.

“เผ่าภูมิ” ชี้รัฐบาลยังไม่มีแนวนโนยบายแก้กม.แบงก์ชาติ – โยกเงิน FIDF เล็งหาทางคุย ธปท.เพิ่ม ส่วนเป้าหมายเงินเฟ้อ 1-3% มองว่าเหมาะสมแต่ต้องหาทางให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบ ซึ่งต้องหารือกับ ธปท.ในเรื่องนี้ด้วย เตรียมประชุมดิจิทัลวอลเล็ตสัปดาห์นี้

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงกระแสการแก้ไข พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศ นั้นรัฐบาลยังไม่มีแนวคิดเรื่องนี้ ส่วนเรื่องของการแก้ไขให้มีการนำเอาหนี้ที่อยู่ในเงินกองทุนฟื้นฟูสถาบันการเงินฯ (FIDF) ไปอยู่ในบัญชีของ ธปท.นั้นรัฐบาลก็ยังไม่มีแนวคิดเรื่องนี้เช่นกัน

เมื่อถามว่าในอนาคตมีแนวคิดดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ นายเผ่าภูมิบอกว่าเรื่องนี้อาจจะต้องหารือกันอีกทีถึงสถานการณ์ในอนาคตแต่ตอนนี้รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดเรื่องนี้

“ยังไม่มีแนวนโยบายสำหรับเรื่องนี้ มีกระแสข่าวออกมาแต่เรายังไม่ได้มีการหารือกัน ส่วนความเหมาะสมก็ต้องหารือแต่ยังไม่มีนโยบายในปัจจุบัน”

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องการทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แนวทางจะเป็นอย่างไร นายเผ่าภูมิกล่าวว่า จะมีการหารือกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังเกี่ยวกับการหาช่องทางในการพูดคุยกับ ธปท.มากขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็คงจะมีการนัดหมายเวลากัน

 

เมื่อถามถึงกรณีของเรื่องเป้าหมายเงินเฟ้อที่กำหนดไว้ที่ 1- 3% ต่อปี จะต้องมีการทบทวนหรือไม่ รมช.คลังกล่าวว่า ในส่วนนี้ก็ต้องหารือร่วมกับ ธปท.แต่มองว่ากรอบที่ 1-3% ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือการที่เงินเฟ้อหลุดกรอบ ไม่อยู่ในเป้าหมายเป็นระยะเวลานานอาจจะกระทบกับเศรษฐกิจได้ในระยะยาว ก็ต้องมาคุยกันว่าทำอย่างไรให้เงินเฟ้อกลับมาอยู่ในกรอบได้

สำหรับเรื่องของการแบ่งงานในกระทรวงการคลัง นางเผ่าภูมิกล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนายพิชัย ชุหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรื่องการแบ่งงาน โดยเฉพาะการดูแลโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะชัดเจนภายในเร็วๆ นี้ ว่าใครจะดูแลงานในด้านไหน แต่ทั้งนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และต้องดูความเชี่ยวชาญของรัฐมนตรีช่วยฯ แต่ละคน ซึ่งความสามารถ และความเหมาะสมที่แตกต่างกัน

ส่วนกรณีที่นายพิชัย ระบุว่าหลังจากนี้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะถือเป็นงานประจำของกระทรวง และจะชี้แจงให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องนั้น นายเผ่าภูมิ ระบุว่า สำหรับเรื่องนี้ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม ทั้งรัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยฯ ทั้ง 3 คน ซึ่งทุกคนจะต้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ เพื่อที่จะดูแลในทุกแง่มุมของโครงการฯ

พร้อมกับมองว่า ที่ผ่านมาการสื่อสารของโครงการฯ นี้ ได้สื่อสารกับประชาชนอย่างต่อเนื่องว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการในด้านไหน และติดปัญหาในด้านใด ซึ่งการชี้แจงบ่อย ก็จะช่วยสร้างความชัดเจน และไม่มีข้อกังขาในสังคม ซึ่งก็เป็นผลดีต่อรัฐบาล และการขับเคลื่อนโครงการฯ ด้วย และภายหลังมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ก็เตรียมที่จะมีการประชุมคณะคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต ภายในสัปดาห์นี้