รมว.คลัง นัดพบผู้ว่าการแบงก์ชาติ 16 พ.ค.นี้
“พิชัย” นัดหารือผู้ว่าการแบงก์ชาติส่วนตัววันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.67) ถกแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หารือนโยบายการเงินการคลัง
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) จะพบปะหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าฯธปท.) เพื่อหาแนวทางการทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกันทั้งนโยบายการคลัง และการเงิน มีความเห็นที่สอดคล้อง กับเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
“ส่วนเรื่องวันเวลาการพบผู้ว่าฯ ธปท. เดี๋ยวจะแจ้งอีกครั้ง”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การพบปะระหว่าง รมว.คลัง และผู้ว่าฯ ธปท.นั้น เบื้องต้น เป็นการพบแบบส่วนตัว ทำให้ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าเวลานัด และสถานที่นัดพบแต่อย่างใด
นายพิชัย กล่าวถึงการแบ่งงานใหม่ หลังจากที่นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง ลาออก ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแบ่งงานใหม่ และตนไม่ต้องการกำกับดูแลหน่วยงานเพิ่มเติม เนื่องจากต้องการมีเวลาประชุม และขับเคลื่อนงานที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ขับเคลื่อน และเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอยากได้บุคคลที่มีความเก่ง และเชี่ยวชาญมาช่วยงานนี้อีก 1 คน
ส่วนหน่วยงานที่อื่นๆ ที่เหลือต้องการให้รัฐมนตรีช่วย ทั้ง 2 ท่านเป็นผู้กำกับดูแล
ขณะที่ในช่วงค่ำวันเดียวกัน นายพิชัย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอีกครั้งว่า โดยเบื้องต้นตนเตรียมตัวให้พร้อมและพยายามทำตัวให้ว่างเพื่อจะนัดกันได้ทันทีเมื่อท่านพร้อม ซึ่งจะเป็นการนัดพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการเพื่อทำความเข้าใจกัน
"ตอนนี้ผมเห็นภาพแล้วว่าคนนี้คิดแบบนี้ อีกคนคิดแบบนี้ เริ่มเห็นภาพว่าแต่ละฝ่ายมีความเข้าใจในมุมของตนเอง พรุ่งนี้คงรู้ ถึงคุยกันก็ไม่มีอะไรฟันธงแค่เป็นแนวทางเบื้องต้น"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากพูดคุยกันแล้วยังมีความเเห็นที่ี่ไม่ตรงกันจะมีแผนสองอย่างไร นายพิชัย กล่าวว่า ผมไม่เชื่อว่าจะไม่เห็นตรงกันหรอก สุดท้ายเมื่อได้คุยกันแล้วก็จะเห็นตรงกันเมื่อความเข้าใจพื้นฐานเหมือนกัน ผมเองก็มีวิธีคิดที่ไม่ต่างกับเขาเท่าไรและคุ้นเคยสไตล์แบงก์ชาติอยู่แล้ว
"ความเห็นที่ไม่ตรงกันที่อาจมีอยู่มาก ก็จะค่อยๆ ลดลง เชื่อเถอะ วิธีทำงานของผม ยุ่งแค่ไหนก็ทำให้มันจบได้ ทุกคนก็คิดในมุมที่จะทำให้ประเทศดีขึ้น"
ทั้งนี้ ประเด็นที่กระทรวงการคลังจะหารือกับธปท. เบื้องต้นจะคุยกันเรื่องหลักเกณฑ์และภาพใหญ่ก่อน ส่วนจะมีการพูดคุยเพื่อปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อหรือไม่ ต้องดูว่าตามปกติจะมีการปรับเมื่อไหร่ โดยของเดิมมีกรอบเป้าหมายเงินเฟ้ออยู่ที่ 1-3%
สำหรับเรื่องดอกเบี้ยที่มีความเห็นต่างกัน นายพิชัย กล่าวว่า ดอกเบี้ยเป็นผลลัพธ์หากตกลงเรื่องกรอบเงินเฟ้อได้ ก็จะมีการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยแบบหนึ่ง ผมไม่ไปคิดแทน การทำนโยบายการเงินจะต้องมองคาดการณ์ระยะข้างหน้าไกลหน่อย ทึ่งต้องคำนึงถึงหลายเรื่องทั้งความเปลี่ยนแปลง การสู้รบ